วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

iSafePlay - จะโหลดคลิป YouTube, ซ่อนรูปภาพ, เล่นไฟล์หนัง จัดให้ได้ใน App เดียว [Free iPad App] iSafePlay - จะโหลดคลิป YouTube, ซ่อนรูปภาพ, เล่นไฟล์หนัง จัดให้ได้ใน App เดียว [Free iPad App]

iSafePlay - จะโหลดคลิป YouTube, ซ่อนรูปภาพ, เล่นไฟล์หนัง จัดให้ได้ใน App เดียว [Free iPad App]

ช่วงนี้มีเพื่อนๆเข้ามาถามถึงวิธีการดาวน์โหลด YouTube บน iPad และ iPhone กันจำนวนมาก ซึ่งในขณะนี้ App ยอดนิยมอย่าง Meteoric Video Downloader ก็ถูก Apple เก็บออกไปจาก AppStore ซะแล้ว iPadAppz จึงต้องออกตามหา App ใหม่ๆจนได้มาพบกับ App ลึกลับที่ทำได้สารพัดอย่างแถมยังโม้กันแบบเปิดเผยว่าสามารถดาวน์โหลด YouTube ได้แบบไม่เกรงใจใครอย่าง iSafePlay แต่ที่เด็ดที่สุดคือตอนนี้กำลังแจกฟรีด้วยครับ

iSafePlay - ล็อคด้วยรหัสหรือ Gesture ก็ได้

iSafePlay เป็น App สารพัดประโยชน์สำหรับการใช้งานทางด้านมัลติมีเดียทั้งกับ รูปภาพ, ไฟล์หนังและไฟล์เพลง โดยสามารถทำงานได้ครอบจักรวาลไม่ว่าจะเป็นการเล่นไฟล์หนังชนิดต่างๆได้โดยไม่ต้องแปลงไฟล์, ใช้เป็นที่เก็บไฟล์แบบเข้ารหัสไม่ให้ใครเข้ามายุ่ง, ใช้เป็น Download Manager สำหรับดาวน์โหลดไฟล์จากอินเตอร์เน็ท, สร้าง Playlist เพื่อเล่นเพลงที่เก็บไว้, อัพโหลดภาพขึ้น Facebook ครั้งละหลายๆภาพ และที่สำคัญคือสามารถดาวน์โหลดคลิปจาก YouTube ได้แบบง่ายๆเลย

iSafePlay - อัพโหลดภาพขึ้น Facebook

ในการเปิดใช้งานครั้งแรก iSafePlay จะให้เราตั้ง Password สำหรับล็อค App ของเราเองและใส่ซ้ำเพื่อยืนยัน (ใส่ 2 ครั้ง) หลังจากนั้นก็จะถามให้เราใส่รหัสหลอกอีกชั้นที่ต้องไม่ซ้ำกับอันแรก (ใส่อีก 2 ครั้ง) ส่วนการนำไฟล์ที่โหลดมาไปใช้นั้น iSafePlay ก็ทำได้ดีมากอีกเช่นกันเพราะนอกจากจะสามารถรับส่งไฟล์ผ่านทาง iTunes ได้ตามปรกติแล้ว ( ดูวิธีการนำไฟล์เข้า App ผ่าน iTunes) ยังสามารถทำตัวเป็น WiFi Server และ FTP Server เพื่อใช้กับคอมฯ หรือจะส่งไฟล์ระหว่าง iDevice ด้วยกันผ่านทาง Bluetooth ก็ได้

iSafePlay - เปิดดูไฟล์ที่โหลดมา

ที่บอกว่า iSafePlay เป็น App ที่ลึกลับก็เพราะฟังก์ชั่นที่มากซะจนผมทดลองไม่หมด แล้วยังประกาศตัวจากภาพ Screenshot ของ App ว่าสามารถดาวน์โหลดคลิปจาก YouTube ได้ทั้งที่เป็นสิ่งที่ผิดกฏของ Apple แต่ที่แปลกไม่แพ้กันก็คือตัว App มาในแบบตัวทดลองซึ่งจะมีข้อจำกัดเรื่องจำนวนไฟล์ที่ใช้งานได้ แต่เพื่อนๆสามารถปลดล็อคเป็นตัวเต็มได้ฟรีด้วยการไปที่ Settings แล้วเลือก Transfer via Web แล้วตัว App จะแจ้งเราว่าถ้าเรารีวิวคะแนน 5 ดาวให้กับ App นี้จะใช้ตัวเต็มได้เลย ให้ตอบ OK ก็จะกลายเป็นตัวเต็มครับ

iSafePlay - ปลดล็อคเป็นตัวเต็ม

วิธีการดาวน์โหลดคลิปจาก YouTube ด้วย iSafePlay:
- เปิดไปที่เมนู Downloads
- กดที่ปุ่มลูกศรลงด้านซ้ายมือบนเพื่อเปิด Bookmarks แล้วเลือก YouTube
- ค้นหาและเปิดไปที่คลิปที่ต้องการจะดาวน์โหลด
- แตะที่วีดีโอให้เริ่มเล่น
- แตะที่วีดีโอค้างไว้จนมีเมนูใหม่ขึ้นมา
- เลือก Download Video เพื่อเริ่มดาวน์โหลดได้เลย
- กดปุ่มลูกศรลงที่มุมขวามือบนแล้วเลือก Downloads เพื่อไปดูไฟล์ที่กำลังโหลด

iSafePlay - ทำตามขั้นตอนเพื่อโหลดคลิปจาก YouTube

เท่าที่ทดลองดู iSafePlay ก็สามารถทำงานได้ตามที่โฆษณาไว้ได้ทุกอย่างถึงแม้บางอย่าง เช่น การเล่นไฟล์โดยไม่ต้องแปลงจะทำได้ไม่ดีเท่า App ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะอย่างAVPlayerHD แต่ก็ยังถือว่าทำได้อยู่ และถึงแม้ว่าหน้าตา App จะไม่เนียนซะทีเดียวแต่เรื่องฟังก์ชั่นนั้น App นี้ครบเครื่องที่สุดตั้งแต่เคยลองมาจริงๆ บอกได้คำเดียวว่าแนะนำให้ทุกคนดาวน์โหลดไปเก็บไว้โดยด่วนเพราะแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะโดน Apple เก็บไปเมื่อไหร่เหมือนกันครับ

AppStore: iSafePlay (Free) - Universal

วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555

วิธีปิดการแจ้งเตือน (notification) ใน Whatsapp ไม่ให้มากวนใจ

whatsapp
Whatsapp เป็นแอพพลิเคชันที่ ผู้ใช้ iPhone และสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นๆ  มีไว้ประจำเครื่อง และการมี Group Chat เราก็สามารรถ มีปฎิสัมพันธ์กับเพื่อนได้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน ได้เวลาไหนก็ได้ แต่บางครั้ง เราอาจจะไม่สะดวก ในการเข้าร่วมสนทนา ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ๆ เช่น กำลังหลับสบายอยู่ เพื่อนตัวดี ดัน whatsapp มาปลุกเพื่อนทั้งกลุ่มกลางดึก หรือ กำลังประชุมซีเรียสเครียดจัด แต่คุณเพื่อน ก็กระหน่ำส่งข้อความเข้ามา เป็นสิบข้อความ ระบบการแจ้งเตือนก็ เด้งเตือน กันตลอดเวลา และการโดยกระหน่ำแจ้งเตือน (notification) เข้ามามาก ๆ ก็ทำให้แบตหมดเร็วขึ้นเข้าไปอีก
ซึ่งใน Whatsapp นั้น เราสามารถปิดการแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้หลายรูปแบบ ตามความเหมาะสมของเรา วิธีการปิดการแจ้งเตือนสามารถทำได้ดังนี้
1. ไปที่ whatsapp แล้ว เข้าไปที่ Settings (Tab สุดท้ายด้านล่าง รูปเฟือง) แล้วแตะไปที่ Notifications
disable-whatsapp-01
2. เราสามารถเลือกปิดการแจ้งเตือน ได้หลายแบบ ตามต้องการ
(1) ปิดการแจ้งเตือนข้อความใหม่
(2) ปิดการแจ้งเตือนข้อความใหม่ เฉพาะ Group Chat
(3) ปิดการแจ้งเตือน เฉพาะการสั่น ตอนที่เราเปิด whatsapp ทิ้งไว้
(4) ปิดการแจ้งเตือน เฉพาะเสียง ตอนที่เราเปิด whatsapp ทิ้งไว้

หมายเหตุ : ที่ข้อ (1) และ (2) เราสามารถเปลี่ยนเสียงเตือน ให้ต่างกันระหว่าง Message เฉพาะบุคคล และ Message กลุ่มแชท ได้ด้วย
disable-whatsapp-02
3. สำหรับข้อ 1 และ 2 จะเป็นการปิดโดยรวมของ Whatsapp แต่ถ้าเราต้องการเลือกปิดเฉพาะ Group Chat บางห้อง เราก็สามารถทำได้ โดยไปที่ Group ห้องนั้น ๆ ตามภาพด้านล่าง แล้วเลือกแตะที่ Mute
disable-whatsapp-04
4. เราสามารถเลือกปิดได้ ตามระยะเวลาที่ต้องการ 8 ชั่วโมง, 1 วัน, 1 สัปดาห์
disable-whatsapp-03
แค่นี้ก็เรียบร้อย Whatsapp ก็ไม่ส่งการแจ้งเตือนมากวน ให้เรารำคาญ อีกต่อไป

ขั้นตอนการสมัคร Apple ID แบบไม่ผูกบัตรเครดิต (None credit card) ผ่าน iTunes [มือใหม่]

Posted: 15 Jan 2012 04:02 PM PST


เรารู้จัก Apple ID กันไปแล้ว และคงทราบแล้วว่า Apple ID จำเป็นต้องใช้งานกับ iPhone, iPad, iPod Touch อย่างไร รวมทั้ง Apple ID มีอีกแบบ คราวนี้เรามารู้วิธีการสมัคร Apple ID แบบไม่ต้องใช้บัตรเครดิต หรือวิธีการทำให้มีตัวเลือก None เพิ่มมา ปกติเราสามารถสมัคร Apple ID ได้ผ่านทาง iPhone ,iPad, iPod Touch หรือผ่านทาง iTunes ก็ได้ ซึ่งวันนี้เรามารู้จักวิธีการสมัครผ่าน iTunes กันก่อนดีกว่า
วิธีการสมัคร Apple ID แบบไม่ต้องใช้บัตรเครดิตผ่าน iTunes
หมายเหตุ : เราสามารถใช้วิธีนี้ได้ทั้ง US Store และ TH Store เพียงแค่เปลี่ยน Store location ตามต้องการ
โปรดทราบ :
* ถ้ามี Apple ID ที่เคยลงทะเบียนกับเวป Apple.com อยู่แล้วจะทำตามนี้ไม่ได้ เพราะแอปเปิบตะให้ใส่เลขบัตรตลอดไม่มีให้เลือก None เราต้องสร้าง Apple ID ใหม่เท่านั้นถึงจะมี None Option ให้เลือก
* ถ้าอยากใช้อีเมลเดิม ที่เคยสมัคร Apple ID ไปแล้ว ให้สมัคร Apple ID ใหม่ไปก่อน แล้วค่อยสลับอีเมล์ทีหลังได้ 
1. ดาวน์โหลด iTunes เวอร์ชันล่าสุด ตอนนี้คือ iTunes 10.5.2
2. เรียกโปรแกรม  iTunes ขึ้นมา แล้วเลือก Store –> iTuens Store ตามภาพ

3. ที่มุมด้านล่างขวาของโปรแกรม iTunes ให้สังเกตจะมี วงกลมธงประเทศอยู่ เราสามารถเลือกสมัคร US Store หรือ TH Store ได้ (ความแตกต่างอ่านตรงนี้)  ให้คลิกที่วงกลมรูปธงชาติ เพื่อเลือก Store ตามต้องการ

4. เลือก United States หรือ Thailand ตามต้องการ


5. เลือกประเทศเรียบร้อยแล้ว ให้สังเกตด้านขวาจะมี Free Apps chart อยู่ ให้เลือกแอพไหนก็ได้ สักหนึ่งแอพ โดยกด “Free” ดังรูป

6. iTunes จะให้เราเลือก Create หรือ Sign In ให้เลือก Create New Account ตามรูป

7. ในกรณีเลือกเป็น TH Store ก็จะเป็นข้อความภาษาไทย ให้กด “Continue”

8. ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกตามภาพ แล้วกด “Agree” เพื่อตกลงตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของทางแอปเปิล

9. ให้ใส่ข้อมูลต่างๆ เพื่อสมัคร Apple ID ดังนี้
email : ใส่อีเมลที่เราใช้ประจำ
password :  มีข้อกำหนดดังนี้ รหัสผ่านต้องมีจำนวน 8 ตัวอักษรขึ้นไป โดยต้องมีตัวอักษรยกแคร่ อย่างน้อยหนึ่งตัว และต้องมีตัวเลขผสมอยู่ในรหัสผ่าน อย่างน้อยหนึ่งตัวเลข ตัวอย่างรหัสผ่าน เข่น January1

Question & Answer : เป็นคำถามกันลืมรหัสผ่าน คำถามให้เราใส่ข้อความอย่างน้อย 6 ตัวอักษร ส่วนคำตอบไม่ได้กำหนด
Birthday : ให้ใส่วันเดือนปีเกิดตามจริง (แต่ถ้าอายุน้อยกว่ากำหนด แอปเปิลอาจจะไม่ยอมรับได้)


Billing Address : ให้ใส่ Mr/Miss/Mrs ด้วย ชื่อและที่อยู่เบอร์โทรศัพท์ สำหรับ TH Store ไม่ค่อยมีปัญหา แต่สำหรับ US Store ให้เราใส่ข้อมูลให้ถูกต้อง (แม้จะใส่ที่อยู่หลอกๆ ก็ตาม) โดย State และ Zip code ต้องถูกต้อง และเบอร์โทรศัพท์ ต้องเป็นเลขหมายในอเมริกา (เทคนิค : ให้ใช้ ที่อยู่ ของทาง Apple หรือ ใช้ของโรงแรมใด ๆ ใน อเมริกาก็ได้) เช่น
Apple
1 Infinite Loop
Cupertino, CA 95014
408.996.1010

ใส่ข้อมูลครบถ้วนแล้วให้กด “Continue”
10. ถ้าเราทำขั้นตอนมาถูกต้องแล้ว ตัวเลือก “None” จะปรากฎออกมา ให้เรากดเลือกตามภาพ


11. แล้วกด “Create Apple ID”

12. ทางแอปเปิลจะส่ง verification email หรือจดหมายยืนยันการสมัคร ไปยังอีเมลที่เราสมัคร

13. ให้เราไปเช็คอีเมล ที่มาจากทาง apple.com แล้วกด verify link โดยกดลิงค์ที่มาจาก https://buy.itunes.apple.com/xxxxxx/ ประมาณนี้ ก็เป็นอันเรียบร้อย เราสามารถ signin เข้าใช้งานได้แล้ว

   

Posted: 15 Jan 2012 05:51 AM PST



Apple ID เป็น account ที่ใช้ในการติดต่อ เข้า งานบริการต่าง ๆ ผ่านเว็บ apple.com ในการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของทางแอปเปิล และการใช้งาน App Store ผ่านทางโปรแกรม iTunes และผ่านทาง iPhone, iPad, iPod Touch เพื่อซื้อสินค้า ต่างๆ เช่น แอพ, เกมส์,  หนัง และเพลง (สองอย่างหลัง ไม่มีบริการในไทย)
ดังนั้นใครที่ใช้ iPhone, iPad, iPod Touch จำ ป็นต้องมี Apple ID ใช้งานกันทุกคน เพื่อเข้าใช้ บริการต่างๆ นานา ๆ ของกับทางแอปเปิล รวมทั้งเอาไว้โหลดแอพ และเกมส์ต่างๆ ด้วย
วิธีการสมัคร Apple ID มี 2 แบบด้วยกัน คือ
  • แบบผูกบัตรเครดิต
  • แบบไม่ผูกบัตรเครดิต
ข้อแตกต่างของทั้ง 2 แบบนี้ ก็คือ ถ้าเป็นแบบ ไม่ผูกบัตรเครดิต จะไม่สามารถสั่งซื้อแอพ และเกมส์ได้ สามารถดาวน์โหลด ได้แต่ FREE App เท่านั้น ซึ่งก็เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่มีบัตรเครดิต เน้นดาวน์โหลดแอพฟรีอย่างเดียว ไม่อยากให้ข้อมูลบัตรเครดิต  ส่วนแบบผูกบัตรเครดิต ก็สามารถสั่งซื้อแอพ และเกมส์ต่างๆ และ ดาวน์โหลด ฟรีแอพต่างๆ ได้ เพียงมีข้อแม้ว่า บัตรเครดิตที่ออกในประเทศไทย สามารถสมัครได้เฉพาะ Thailand Apple ID เท่านั้น
คำถามที่พบบ่อยกับ Apple ID ?
Q : ถ้าเราสมัครแบบไม่ผูกบัตรเครดิต แล้วภายหลังต้องการ ผูกบัตรเครดิตได้ไหม ?
A: เราไม่จำเป็นต้องสมัคร Apple ID ใหม่ สามารถใส่ข้อมูลบัตรเครดิตได้ภายหลัง โดยการกด Buy สั่งซื้อ แอพที่มีราคาตั้งแต่ $0.99 ขึ้นไป ทางแอปเปิล จะสอบถามข้อมูลบัตรเครดิต และผูกให้เราโดยอัตโนมัติ
Q: ไม่มีบัตรเครดิต แต่มีบัตรเดบิตการ์ดใช้แทน ได้ไหม ?
A: บางบัตรเดบิตสามารถใช้ได้เช่น บัตรบีเฟิร์ส ของธนาคารกรุงเทพ หรือบัตรเดบิตของธนาคารกสิกรไทย ขอให้บัตรเดบิตนั้นมีตัวเลข 3 หลัก แบบบัตรเครดิตก็พอแล้ว
Q: ทำไมบางครั้ง แม้จะใส่ Apple ID กับ password ถูกต้องแล้วก็เข้าใช้ไม่ได้?
A: บางช่วงเวลาโดยเฉพาะที่มี การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ  ของแอปเปิล server อาจจะทำงานหนัก หรือมีปัญหา จนเกิดอาการล่มได้ ทำให้ เราไม่สามารถ sign in ได้ ให้มา sign in ใหม่วันหลัง
Q: iTunes / App Store แต่ละประเทศต่างกันอย่างไร ?
A: คงสงสัยกันว่า เอ๊ะ ทำไมต้องมีการพูดถึง USA Apple ID กับ Thai Apple ID เหตุผล ก็เพราะว่าบริการบางอย่างนั้นจะมีให้บริการ เฉพาะใน USA Store เท่านั้น เช่น บริการ Music, Movie และรวมถึง แอพและเกมส์ บาางตัว อาจจะมีเฉพาะใน USA Store หรือมีแจกฟรี เฉพาะใน USA Store หรือบางประเทศเท่านั้น
Q: เราสามารถผูกบัตรเครดิตประเทศไทยกับ US Apple ID ได้ไหม ?
A: ไม่ได้ครับ แต่เราสามารถเติมเครดิตใน US Apple ID ได้  เพื่อใช้ในการสั่งซื้อสินค้า ด้วยการใช้ iTunes
Gift card
Q: iTunes Gift card หาซื้อได้ทีไหน ?
A: iTunes Gift card สามารถใช้ได้กับ US Apple ID เท่านั้น ดังนั้นจึง ไม่มีขายอย่างเป็นทางการในไทย แต่ก็มีขายทั่วไปในเน็ต หรือตามร้าน มือถือบางร้าน แต่ต้องระวังของปลอมด้วย   และเท่าที่เคยได้ยินมามีขายที่ iStudio บางร้านด้วย

เพิ่มปฏิทินวันหยุด วันสำคัญ วันพระ เข้า Calendar 2555

เพิ่มปฏิทินวันหยุด วันสำคัญ วันพระ เข้า Calendar 2555

http://www.webappiphone.com/ical/

Image Image

มาแล้วครับปฏิทินปีหน้า 2555 สำหรับ ชุมชนชาว iPhone
ติดตั้งง่ายๆ เพียงแค่กดไม่กี่ครั้ง ก็จะมีปฏิทินวันหยุด วันสำคัญ วันพระ เข้า Calendar 
ใช้ได้กับสำหรับ iPhone, iPod Touch, iPad, Mac OSX ทุกเครื่อง
สำหรับผู้ใช้ Android :: Android Phone , Android Tablet ยี่ห้อต่างๆ ก็ทำตามขั้นตอนนะครับ



สำหรับผู้ใช้ Android :: Android Phone , Android Tablet ยี่ห้อต่างๆ 
เข้า Android Market ค้นหา App ชื่อ 

iCal Import/Export
Image
https://market.android.com/details?id=at.aichbauer.ical



ปฏิทินวันหยุดและวันสำคัญ ปี ๒๕๕๕

ให้ Set URL ใน App iCal Import/Export เป็น
http://www.webappiphone.com/ical/thaiholidays2555.ics



ปฏิทินวันพระ ปี ๒๕๕๕

ให้ Set URL ใน App iCal Import/Export เป็น
http://www.webappiphone.com/ical/buddhistdays2555.ics



credit::xxovoxx
http://pdamobiz.com/forum/forum_posts.a ... 73590&PN=1

วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555

SEX,XXX,เซ็ก,เซ็กส์,เซ็กซ์,ประสบการณ์,ความรัก,ร่วมเพศ,เทคนิคบนเตียง,เรื่องบนเตียง,ร่วมรัก,เพศ,รัก,XX
โดย ทั่วไป เมื่อพูดถึงกิจกรรมบนเตียงของคู่รัก เรามักจะไปค่อยเปิดเผย ด้วยวัฒนธรรมของไทยเรา ที่มองว่าเรื่องนี้ ค่อนข้างส่วนตัว ไม่ควรนำมาพูดคุยในที่สาธารณะ หรือแม้แต่บางท่านอาจมองไปว่าหญิงใด ที่นำเรื่องนี้มาพูดนั้น ไม่เหมาะยิ่ง ทำให้เสียจริตและลดคุณค่าอันดีงามของหญิงไทย
จึงส่งผลให้บางครั้งการ ปฏิบัติกิจอย่างว่ากับคู่ของตนจึงกลายเป็นหน้าที่ของชาย ทั้งที่จริง ๆ แล้ว หญิงเราสามารถให้ความสุขกับชายคนรักของตนเองได้
เมื่อผู้หญิงมี อารมณ์อยาก (อย่าบอกนะว่าไม่เคย) โดยมากมักจะเขินอาย ไม่กล้าเอื้อนเอ่ย เพราะอาจถูกมองว่า เป็นผู้หญิงมักมาก แต่ยุคนี้สมัยนี้ โลกาภิวัตน์ สังคมก้าวหน้าไปมาก อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนแต่ก่อน ในสังคมของการทำงาน มีมากมายที่ผู้หญิงเป็นผู้นำ เป็นหัวหน้างาน และทำงานได้ดีไม่แพ้ผู้ชาย (หรือบางรายอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ) เรื่องอย่างว่าก็เช่นกัน ผู้หญิงเราสามารถเป็นผู้นำ หรือเป็นฝ่ายเริ่มก่อนได้
เรามีข้อแนะนำมาบอกกับลูกผู้หญิงทั้งหลาย เรา “รุก” ก่อนได้ ด้วยเทคนิคเหล่านี้
ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารให้เป็นประโยชน์
เดี๋ยวนี้ การติดต่อหากันไม่ว่าจะไกลกันแค่ไหน เราก็สามารถติดต่อกันได้ ใช้โทรศัพท์หรือส่งเมสเสจ หรือแม้แต่ส่งเมลล์ไปหาเข้าสิ บอกเขาว่าคุณต้องการอะไร แจงแตกรายละเอียดยั่วอารมณ์หวิวกับเขา และเมื่อเขากลับถึงบ้าน คุณก็ชิงลงมือก่อนที่เขาจะทันตั้งตัว ทำแบบที่คุณบอกไว้ แค่นี้คุณก็คุมเกมรักเขาได้แล้ว
สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติก
วิธีนี้จะสร้างความประหลาดใจให้กับเขามากกว่าวิธีแรก สำหรับคู่ที่ชอบอะไรที่โรแมนติก ลองจัดวางดอกกุหลาบหรือช็อกโกแลตไว้เป็นทาง จากประตูเข้าบ้านมาจนถึงห้องนอน พอเขาเปิดประตูห้องนอนเข้ามาก็จะเจอคุณ ซึ่งไม่มีอะไรติดกายเลยนอนทอดกายอยู่บนเตียง มีเพียงรอยยิ้มยั่วเย้าบนใบหน้าไว้ต้อนรับเขาเท่านั้น
เนื้อแนบเนื้อก็เร้าใจได้
เมื่อคุณมีเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ใช้เรือนร่างของคุณให้เป็นประโยชน์ คุณอาจจะกอดเขาจากด้านหลังโดยให้อวัยวะทุกส่วนของคุณแนบชิดติดแผ่นหลังของ เรา ใช้มืออ่อนนุ่มของคุณลูบไล้สัมผัสตามตัวของเขาตั้งแต่หน้าอก หน้าท้อง จนเกือบถึงเจ้าหนูของเขา อย่าให้โดนจัง ๆ แล้วเลื่อนไปสัมผัสบริเวณขาอ่อนด้านใน รับรองว่าเขาจะตื่นเต้นจนเจ้าหนูเขาตื่นตัวขึ้นมาแน่นอน หรือถ้าคุณอยู่บนเตียงกับเขาอยู่แล้ว เอนหลังพิงเขา แล้วทำสะโพกยึกยักเสียดสีกับเจ้าหนูซึ่งกำลังตื่นตัวนิดๆ แต่ยังไม่แข็งตัวเต็มที่ จากนั้นเอื้อมมือไปข้างหลัง คว้าสะโพกของเขาไว้แล้วจับให้แน่น นวดคลึงพร้อมกับดันตัวเขาให้เบียดชิดสะโพก ทำไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาตื่นตัวเต็มที่ ทีนี้เขาก็จะรู้แล้วว่าต้องทำอะไรต่อไป
เล่นละครกัน
สวมบทบาทกันสักนิด เพื่อให้ตื่นเต้นสักหน่อย โดยคุณแสดงเป็นนายสาวจอมโหด ทำเสียงเซ็กซี่สุดๆ อาจจะกระซิบข้างหูแล้วบอกเขาว่า คืนนี้ เขาคือทาสเซ็กซ์ของคุณ ดังนั้นเขาต้องปฏิบัติตามคำบัญชาของนายหญิง ห้ามอิดออดเด็ดขาด สั่งให้เขาปรนเปรอเซ็กซ์อย่างถึงอกถึงใจ ถ้าทำผิดไม่ถูกใจ ก็ตีก้นเป็นการลงโทษ
ปากพาถึงสวรรค์
ถ้าคุณยังจำได้ว่า เวลาเขาพรมจูบไปทั่วตัวคุณ มันทำให้คุณรู้สึกดีแค่ไหน คุณก็ควรใช้วิธีเดียวกันกับเขาด้วย เริ่มตั้งแต่แก้ใบหน้า ปาก ใบหู คอ หน้าอก เรื่อยมาหน้าท้อง ไล้ต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนถึงขาอ่อนด้านใน แล้วปิดด้วยการทำออรัลเซ็กส์ให้กับเขา ถ้ายังไม่เคยทำวิธีนี้ ลองดู รับรองเขาต้องขอต่อในครั้งต่อไปแน่นอน
บอกกันตรง ๆ ไปเลย
ไม่ต้องมีลีลา ไม่ต้องทำอะไร นอกจากพูดกันตรง ๆ ไปเลยว่า “คุณต้องการมีเซ็กส์” คว้าแขนเขาลากเข้าห้องนอน ปากร่ำร้องว่า “ฉันต้องการคุณ ฉันต้องการคุณเดี๋ยวนี้”
เรื่อง เซ็กส์ไม่ใช่เรื่องต้องห้าม และไม่ใช่เรื่องน่าอาย เป็นกิจวัตรปกติที่คุณสามารถปฏิบัติกับคนรักของคุณได้ เป็นกิจกรรมที่เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของครอบครัว หากรู้จักให้อย่างถูกต้อง แค่นี้ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณและเขา ก็สามารถเกิดขึ้นได้ และมีความสุขด้วยกันทั้งสองฝ่ายแน่นอน

โจ๋แพ้ยาย้อมผมหัวบวมฉึ่ง

โจ๋แพ้ยาย้อมผมหัวบวมฉึ่ง
เมื่อ 5 พ.ย. เดลี่เมล์รายงานว่า โคลเอ โรบินส์ สาวน้อยชาวอังกฤษวัย 14 ปี จากเมืองเซาธ์แธมป์ตัน ถูกหามส่งโรงพยาบาล หลังเกิดอาการแพ้น้ำยาเปลี่ยนสีผมอย่างรุนแรงจนใบหน้าและศีรษะบวมเป่ง
อาการแพ้เกิดขึ้นหลังจากนางโจแอนนา ย้อมผมให้ลูกด้วยน้ำยาเปลี่ยนสีผมสีดำแบบย้อมกึ่งถาวร ซึ่งมีสารเคมีประเภทพาราฟีนีเลเนไดอามีน (PPD) เพราะลูกสาวจะแต่งตัวเป็นผีดิบไปร่วมงานเลี้ยงฮัลโลวีน เมื่อ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นโคลเอเริ่มมีอาการคันหนังศีรษะ แต่ไม่ถึง 48 ชั่วโมง คอและศีรษะบวมพอง พร้อมทั้งหายใจลำบาก แม้ก่อนใช้งานจะทดสอบการแพ้แล้ว
ด้านแพทย์เผยว่า ปัญหาที่พบเป็นเรื่องปกติมากและแนะว่าทางที่ดีควรจะหลีกเลี่ยงการย้อมผม ทั้งนี้ ไม่กี่สัปดาห์ก่อนเพิ่งเกิดเหตุ น.ส.ทาบาธา แม็กคอร์ต วัย 17 ปี เสียชีวิตเพราะแพ้น้ำยาเปลี่ยนสีผมที่ย้อมทิ้งไว้นาน 20 นาที โดยแม็กคอร์ตกรีดร้องและอาเจียนก่อนล้มลงอย่างทุรนทุราย

เคล็ดลับ : เทคนิคผัดถั่วงอกไม่ให้ช้ำ


บ้านไหนที่พบกับปัญหา เวลาผัดถั่วงอกแล้วช้ำไม่น่าทาน วันนี้์มีเคล็ดลับการผัดถั่วงอกไม่ให้ช้ำมาฝาก…
โดยเริ่มจากผัดสิ่งที่ต้องการก่อน แล้วค่อยนำถั่วงอกลงผัด แต่ว่าถั่วงอกที่ผัดต้องเป็นถั่วงอกตอนที่อวบ และเมื่อผัดสิ่งที่ต้องการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ค่อยนำถั่วงอกลงผัด จากนั้นก็เติมน้ำส้มสายชูและเกลือลงไปเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ถั่วงอกช้ำ และเวลาผัดก็ควรใช้เวลาในการผัดเพียงเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็จะได้ผัดถั่วงอกที่ไม่ช้ำแถมน่าทานอีกด้วย.
1. การรักและไม่ได้รับรักตอบ เป็นทุกข์ แต่สิ่งที่ทุกข์ยิ่งกว่า คือการรักใครสักคน แต่ไม่มีความกล้าพอที่จะบอกให้คนคนนั้นรู้ และต้องมาเสียใจภายหลัง
2. พระเจ้าอาจจะต้องการให้เราพบคนที่ไม่ใช่..ก่อนที่จะมาพบคนที่ใช่ เพื่อเวลาเราพบคนคนนั้นแล้ว เราจะได้รู้สึกซาบซึ้งถึงพรที่ท่าน ประทานมา
3. ความรักคือความรู้สึกที่คุณยังห่วงใยใครสักคนอยู่ แม้จะแยกความ รู้สึก ความลุ่มหลง และความสัมพันธ์แบบรักใคร่ออกไปแล้ว
4. สิ่งที่น่าเศร้าในชีวิต คือการพบคนที่มีความหมายอย่างมากสำหรับเรา แต่มาค้นพบภายหลังว่าเราไม่ได้ถูกกำหนดมาเพื่อสิ่งนั้น และจะต้องปล่อยให้ผ่านพ้นไป
5. เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลงประตูแห่งความสุขบานอื่นก็จะเปิดขึ้น แต่เราก็มัวแต่มองประตูที่ปิดลงไปแล้วเนิ่นนานจนกระทั่งเรามองไม่เห็นประตู ที่เปิดไว้รอ
6. เพื่อนที่ดีที่สุดคือคนที่คุณสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงด้วยกันโดยไม่พูดอะไร กันสักคำ แต่สามารถเดินจากไปด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกัน อย่างประทับใจที่สุด
7. เป็นความจริงที่เราไม่สามารถรู้เลยว่าเรามีอะไรอยู่จนกว่าเราจะสูญเสียมันไป แต่ก็จริงอีกเช่นกันที่เราไม่รู้ว่าเราพลาดอะไรไปบ้างจนกระทั่งสิ่งนั้นเข้า มาหาเรา
8. การมอบความรักทั้งหมดให้ใครสักคนไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเขาจะรักเราตอบ อย่าหวังที่จะได้รักตอบ แต่จงรอให้มันงอกงามขึ้นในหัวใจเขา แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ให้พอใจว่าอย่างน้อยมันก็ได้งอกงามขึ้นในใจของเราเอง
9. มีสิ่งที่คุณต้องการจะได้ยิน แต่คุณจะไม่ได้ยินมันจากปากของคนที่คุณอยากได้ยิน แต่อย่าทำตัวเป็นคนหูหนวกโดยไม่รับฟังสิ่งนั้นจากคนที่เขาบอกกับคุณจากหัวใจ
10. อย่าบอกลาถ้าคุณยังต้องการจะพยายามต่อไป อย่าท้อใจถ้าคุณยังรู้สึกว่าคุณไปไหว อย่าพูดว่าคุณไม่รักคนคนนั้นอีกแล้ว ถ้าคุณไม่สามารถทำใจ

11. ความรักมักมาเยือนผู้ที่ยังคงหวัง ถึงแม้ว่าจะผิดหวัง และมาเยือนผู้ที่ยังคงเชื่อ ถึงแม้ว่าจะถูกทรยศหักหลัง และจะมาเยือนผู้ที่ยังคงรัก ถึงแม้จะเคยเจ็บปวดมาก่อน
12. การที่เราจะประทับใจใครนั้นใช้เวลาแค่เพียงนาที การที่เราจะชอบใครใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมง การที่เราจะรักใครใช้เวลาเพียงชั่ววัน แต่การที่จะลืมใครนั้นต้องใช้เวลาชั่วชีวิต
13. อย่ามองใครจากหน้าตา เพราะมันอาจหลอกเราได้ อย่ามองใครจากความร่ำรวย เพราะมันไม่จีรังยั่งยืน ให้มองหาคนที่ทำให้คุณยิ้มได้ เพราะเพียงยิ้มเดียว สามารถทำให้วันที่หม่นหมองกลับสดใส ขอให้คุณพบคนที่ทำให้คุณยิ้มได้
14. มีช่วงเวลาในชีวิตที่คุณคิดถึงใครสักคนจนกระทั่งอยากดึงเขา มาจากความฝันเพื่อกอดเอาไว้ขอให้คุณได้ฝันถึงคนพิเศษนั้น
15. ฝันถึงสิ่งที่คุณต้องการฝันไปในที่ที่คุณต้องการไปเป็นในสิ่งที่คุณต้องการ เป็น เพราะคุณมีเพียงชีวิตเดียว และมีโอกาสเดียวที่จะทำทุกสิ่งที่คุณต้องการ
16. ขอให้คุณมีความสุขมากพอที่จะทำให้คุณเป็นคนอ่อนหวาน ผ่านการทดสอบมามากพอที่จะทำให้คุณเข้มแข็ง มีความเศร้าโศกพอที่จะทำให้คุณยังคงความเป็นมนุษย์ และมีความหวังมากพอที่จะทำให้คุณเป็นสุข
17. เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าคุณรู้สึกว่าสิ่งนั้นจะทำให้คุณเจ็บปวด รู้ไว้เถอะว่าคนอื่นก็เจ็บปวดจากสิ่งเดียวกันเช่นกัน
18. คำพูดที่ไม่ได้ยั้งคิดอาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง คำพูดที่โหดร้ายอาจทำลายชีวิต คำพูดที่เหมาะกาละเทศะอาจลดความเครียด คำรักอาจเยียวยาและทำให้มีสุข
19. จุดเริ่มของความรักคือการปล่อยให้คนที่เรารักเป็นตัวของตัวเอง อย่าดึงเขาจากภาพความเป็นเขา มิฉะนั้นจะหมายความว่ามันเป็นเพียงภาพสะท้อนของตัวเรา ที่ปรากฎในพวกเขา
20. คนที่มีความสุขที่สุดไม่ได้หมายความว่าเขามีสิ่งที่ดีที่สุด เพียงแต่เขาสามารถทำสิ่งที่เขามีให้ดีที่สุดได้ต่างหาก

21. ความสุขรออยู่เบื้องหน้าผู้ที่มีน้ำตา ผู้ที่เจ็บปวด ผู้ที่ค้นหา และผู้ที่ พยายามแล้ว เพราะมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้จักคุณค่า-ของผู้คนที่ได้สัมผัสชีวิต
22. ความรักเริ่มต้นด้วยรอยยิ้ม งอกงามด้วยรอยจูบ และจบลงด้วยคราบน้ำตา
23. อนาคตที่สดใสมีรากฐานอยู่บนอดีตที่แสนเจ็บปวด คุณไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ดี ถ้าหากไม่รู้จักปล่อยวางความผิดพลาดในอดีต และความปวดใจ
24. คุณร้องไห้ตอนคุณเกิดในขณะที่คนรอบข้างกำลังยิ้ม จงมีชีวิตอยู่เพื่อเมื่อตอนคุณตาย คุณจะเป็นคนที่ยิ้ม ในขณะที่คนรอบข้างร้องไห้ให้คุณ
25. ความรักก็เหมือนกับการเสี่ยง คุณอาจจะต้องพบกับความล้มเหลว แต่ถ้าคุณไม่เสี่ยง คุณก็อาจจะต้องพบกับความล้มเหลวตลอดไป
26. ความรัก มักเหมือนแก้วบาง ถ้าหากคุณมือหนัก แก้วที่คุณถือ ก็อาจจะต้องแตกร้าวทุกครั้งที่คุณใช้มัน
27. ความรัก ง่ายที่เราจะหามัน แต่ยากที่จะรักษาเอาไว้ให้คงอยู่ตลอดไป
28. ความรัก เป็นเรื่องง่ายๆ ที่จะรักษามันไว้กับใจ หากคนทั้งคู่ ไม่ โง่…

ดอกไม้ประจำวันเกิดบอกพื้นฐานดวงคุณได้


ดอกไม้ประจำวันเกิดของคุณนั้นสามารถเช็คดวงพื้นฐานของคุณได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ไม่เชื่อลองมาดูไปพร้อมๆกันเลย
คนที่เกิดวัน…อาทิตย์ : ดอกไม้ประจำวันเกิด คือ ดอกทานตะวัน อันเป็นสัญลักษณ์คู่กับพระอาทิตย์
ความหมายของดอกไม้และคนที่เกิดวันอาทิตย์ คือ การมีความฝันอันยิ่งใหญ่ เชื่อมั่น หัวสูง ถือตัว และหยิ่งในศักดิ์ศรีด้วย
คนที่เกิดวัน…จันทร์ : ดอกไม้ประจำวันเกิด คือ ดอกมะลิ 
ความหมายของดอกไม้และคนที่เกิดวันจันทร์ เป็นคนที่มีความนุ่มนวลอ่อนโยน เรียบร้อย มี ความรักที่อ่อนโยนและไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน เพราะคนวันจันทร์มักอ่อนไหวง่าย โรแมนติก และช่างฝัน
คนที่เกิดวัน…อังคาร : ดอกไม้ประจำวันเกิด คือ ดอกกล้วยไม้
โดยเฉพาะที่ออกดอกสีชมพู ความหมายของดอกไม้และคนที่เกิดวันอังคาร หมายถึง คนที่มีความรักที่ร้อนลุ่ม หวือหวา วูบวาบ
คนที่เกิดวัน…พุธ : ดอกไม้ประจำวันเกิด คือ ดอกบัว 
ความหมายของดอกไม้และคนที่เกิดวันพุธ หมายถึง จิตใจอันสงบ เพราะคนที่เกิดวันพุธจะเป็นนักการทูตและรักสันติภาพ ซึ่งคนที่เกิดวันนี้มักจะเป็นนักคำนวณ(เงิน) สำหรับสีเหลืองอร่ามราวกับทองของดอกไม้ชนิดนี้ (บัว) หมายถึง รักของคนที่เกิดวันพุธต้องมาพร้อมเงิน
คนที่เกิดวัน…พฤหัสบดี : ดอกไม้ประจำวันเกิด คือ ดอกคาร์เนชั่น
หมาย ถึงรักที่อ่อนโยนและอ่อนหวาน ความหมายของดอกไม้และคนที่เกิดวันพฤหัสบดี คือ การมีความฝันอันยิ่งใหญ่ เชื่อมั่น หัวสูง ถือตัว และหยิ่งในศักดิ์ศรีด้วย
คนที่เกิดวัน…ศุกร์ : ดอกไม้ประจำวันเกิด คือ ดอกกุหลาบ 
ความหมายของดอกไม้และคนที่เกิดวันศุกร์ เพราะคนที่เกิดวันนี้เป็นนักรักผู้ยิ่งใหญ่ มีเสน่ห์เหลือล้น หรือจะเป็นดอกไม้เจ้าเสน่ห์ที่มีความหมายหวานแหววแบบดอกไวโอเลต คนที่เกิดวันศุกร์บางอารมณ์ ก็เป็นคนโลเล จึงได้ดอกลาเวนเดอร์ที่มีความหมายถึงรักที่สับสน ไม่แน่นอน ไปครองอีกดอกหนึ่ง
คนที่เกิดวัน…เสาร์ : ดอกไม้ประจำวันเกิด เป็นดอกลิลลี่
หมายถึงรักครั้งแรก รักที่บริสุทธิ์ ความหมายของดอกไม้และคนที่เกิดวันเสาร์ คือ เป็นคนจริงจัง รักคนยาก และเป็นคนขี้เหงาอีกต่างหาก

สาว ๆ กินเก่ง มาลดความอ้วนกันเถอะ!

เคล็ดลับสุขภาพ
สาว ๆ กินเก่ง มาลดความอ้วนกันเถอะ! (Woman’s Story)
ความ อ้วนเป็นสิ่งที่สาว ๆ ไม่พึงประสงค์ให้เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะความอ้วนมาเยือนเมื่อไหร่ เป็นอันต้องควักเงินออกจากกระเป๋ามาซื้อเสื้อผ้าใหม่ นอกจากนั้นยังทำให้หุ่นของเราไม่เป็นที่น่ามอง แถมตามมาด้วยโรคภัยไข้เจ็บอีกมากมาย ดังนั้นทางที่ดีเราควรหันมาลดความอ้วนด้วย วิธีง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
 เข้าโรงพยาบาลเพื่อเช็กร่างกาย
ใครที่รู้ตัวว่าตนเองเป็นคนอ้วนก็ควรหมั่นไปพบหมอเพื่อตรวจสุขภาพของร่างกาย เสียบ้าง เพราะการที่เราได้รับคำแนะนำจากหมอในเรื่องของการลดความอ้วนเป็นสิ่งที่ดี เวลาที่เราไปปรึกษาหมอ ส่วนใหญ่หมอจะขอตรวจเช็กระดับความดันเลือด คอเลสเตอรอล ระดับน้ำตาลในเลือดและไทรอยด์ เพื่อดูว่าปกติหรือไม่ นอกจากนั้น เราควรบอกหมอด้วยว่าตอนนี้เราคิดจะทำอะไร เพื่อที่หมอจะได้ชี้แนะแนวทางในการลดความอ้วนให้กับคุณอย่างถูกวิธี
 เคลียร์ตู้กับข้าว/ตู้เย็น
ตู้กับข้าวกับตู้เย็นเนี่ยแหละ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้คนเราเกิดความอ้วน เพราะเมื่อใดก็ตามที่ภายในตู้มีของกินที่อุดมสมบูรณ์ เมื่อเราเห็นก็ต้องเกิดกิเลส เกิดความอยาก และต้องหยิบขึ้นมากิน ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราลดน้ำหนักไม่ได้ ทางที่ดีเราควรตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ควรซื้อเฉพาะของกินที่จำเป็น ที่กินแล้วไม่อ้วนอย่างผัก ผลไม้ นม ซีเรียล เป็นต้น แต่ถ้าเป็นพวกขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม ไม่ควรซื้อเก็บไว้จะดีที่สุด
 ถ่ายรูปและจดบันทึก
ความหมั่นพยายามถ่ายรูปตัวเองเก็บไว้ในช่วงที่คุณกำลังลดความอ้วน และควรชั่งน้ำหนัก วัดขนาดสัดส่วนของร่างกาย จดบันทึกไว้ในสมุด เพื่อที่เราจะได้นำมาเป็นแรงผลักดันในการลดน้ำหนัก นอกจากนั้นควรจดบันทึกด้วยว่าในแต่ละวันเราทานอะไรเข้าไปบ้าง เพราะเราไม่รู้หรอกว่าในแต่ละมื้อเราทานอาหารขยะเข้าไปมาแค่ไหน ทางที่ดีควรจดบันทึกเอาไว้ เพื่อในวันต่อไปเราจะได้เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ที่ไม่ส่งผลต่อความอ้วน ของเรา
 จัดสภาพแวดล้อมรอบข้าง
สภาพแวดล้อมรอบข้างก็เป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจให้เราเกิดกิเลส หรือความอยากได้เหมือนกัน อย่างเช่นภายในที่ทำงาน ถ้าเพื่อนร่วมงานซื้อขนมมาเลี้ยงหรือตั้งไว้บนโต๊ะ คุณก็จะเกิดความอยากกินขึ้นมาทันที ทางที่ดีคุณควรบอกเพื่อนของคุณว่าควรซื้อของกินที่มีประโยชน์อย่างเช่นผลไม้ เป็นต้น นอกจากนั้นควรมีน้ำเปล่าแช่ไว้ในตู้เย็นเสมอ เวลาที่เรารู้สึกกระหายน้ำการดื่มน้ำเปล่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
 ตั้งเป้าหมาย
คุณต้องเป็นคนที่ยอมรับความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น และต้องรู้จักตั้งเป้าหมายที่เป็นจริงและเห็นผลชัดเจน ด้วยการจดบันทึกไว้อย่างสม่ำเสมอ อย่างเช่น ถ้าคุณต้องการลดน้ำหนักให้ได้ 10 กิโลกรัม คุณก็ควรตั้งเป้าไว้ที่ 5 กิโลกรัมก่อน และจัดการอีก 5 กิโลกรัมเมื่อคุณบรรลุเป้าหมายที่คุณกำหนดไว้ ซึ่งการมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะทำให้เรามีกำลังใจในการลดน้ำหนัก
 หาที่ปรึกษา
การที่คุณตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงรูปร่างของตนเองด้วยวิธีการลดความอ้วน คุณควรมีที่ปรึกษาที่ดี อย่างเช่น เพื่อน ครอบครัว หมอ เพื่อที่เราจะปรึกษาพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาความอ้วนที่เกิดขึ้น เผื่อว่าเขาจะมีคำแนะนำดี ๆ ให้กับเราได้ค่ะ
 มีคำสอนเป็นที่ยึดหลัก
ในขณะที่ตั้งใจลดความอ้วน คุณอาจจะหาคำคมดี ๆ ที่ร้างกำลังใจให้กับเราหรือคุณอาจจะนำเอาบันทึกที่คุณจดไว้ในขณะที่ลดความ อ้วน เอาไปแปะไว้ในส่วนที่คุณเห็นได้ง่าย อย่างเช่น กระจกห้องน้ำ ประตูห้องนอน หรือตามฝาผนังบ้าง ประตูตู้เย็น ซึ่งเหมือนกับเป็นการเตือนใจให้คุณอย่าท้อแท้กับการลดความอ้วน เพื่อสุขภาพที่ดีและหุ่นที่สวย
 หมั่นออกกำลังกาย
วิธีที่ดีที่สุดของการลดความอ้วนก็คือหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยให้หุ่นของเราเฟิร์มแล้ว ยังทำให้สุขภาพร่างกายของเราดีตามไปด้วย ซึ่งการลดน้ำหนักด้วยวิธีการออกกำลังกาย จะให้เห็นผลทันทีคงเป็นไปไม่ได้ มันต้องใช้เวลาเหมือนกับวิธีอื่น ๆ แต่ถ้าเราหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ จากคนที่เคยอ้วนก็จะค่อย ๆ มีรูปร่างผอม อีกทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของเราด้วย
คนเราจะอ้วนจะผอมก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ถ้าเราบังคับตนเองไม่ได้ และยังกินตามใจปาก ความอ้วนมันก็คงอยู่กับเราต่อไป แต่ ถ้าเราหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ และเลือกรับประทานแต่ของที่มีประโยชน์อย่างผัก ผลไม้ ความอ้วนก็จะไม่เกิดขึ้นกับเราอย่างแน่นอนค่ะ

ศัลยกรรม…เมื่อดาบสองคมทำพิษ!

ศัลยกรรม
ศัลยกรรม…เมื่อดาบสองคมทำพิษ! (Lisa)
เมื่อเราไม่พอใจกับความงามตามธรรมชาติ การพึ่ง “มีดหมอ” ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่คุณมั่นใจแล้วหรือว่าศัลยกรรมจะทำให้คุณสวย…ไม่แน่อาจจะเสียสวยก็ได้ นะ!
เมื่อไม่นานมานี้การทำศัลยกรรมกลายเป็นประเด็นหนึ่งที่คนกลับมาให้ความสนใจกันอีกครั้ง เมื่อรายการ “ตีสิบ” นำเสนอเรื่องราวของ “คุณตั๊ก” ผู้เสพติดการทำศัลยกรรมจนตัวเธอเองต้องเสียโฉมถาวรถึงชั้นไม่สามารถออกไปไหนมาไหนตามปกติได้มากว่า 3 ปี และในอีกด้าน รายการ “วีไอพี” กลับเสนอเรื่องราวของ “อภิรักษ์” เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ซึ่งผ่านการทำศัลยกรรมมามากกว่า 16 ครั้ง รวมถึงการเหลาคาง ฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ฯลฯ ถ้ามองเผิน ๆ ในกรณีหลังเราอาจจะกล่าวได้ว่าการทำศัลยกรรมประสบความสำเร็จ แต่นี่เป็นเรื่องปกติแน่เหรอ? ไม่ปกติแน่นอน และความไม่พอใจในความงามจนต้องแสวงหาการทำศัลยกรรมมากขึ้นเรื่อย ๆ นี่แหละคือปัญหา
คนไทยกับศัลยกรรม
เรา อาจจะเป็นประเทศที่ไม่กว้างขวางนักก็จริง แต่ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ ในโลกเรามีสถิติเสริมความงามมากที่สุดเป็นอันดับที่ 21 ของโลก ในขณะที่เพื่อนร่วมทวีปอย่างญี่ปุ่นหรือเกาหลีนั้นอยู่ที่อันดับ 6 และ 7 ตามลำดับ (ที่มา : Intemational Society of Aethetic Plastic Surgery)
คนไทยนิยมทำอะไร?
ต้องผ่าตัด (Surgical Procedures)ไม่ต้องผ่าตัด (Non-Surgical Procedures)
ขั้นตอนจำนวนคนไข้ (ราย)ขั้นตอนจำนวนคนไข้ (ราย)
เสริมหน้าอก13,875ฉีดโบท็อกซ์19,077
ดูดไขมัน13,261ฉีดยาละลายไขมัน11,636
ตกแต่งเปลือกตา10,926ฉีดกรดไฮยาลูรอนิก10,982
เสริมจมูก6,076ฉีดไขมันตนเอง4,198
ผ่าตัดไขมันหน้าท้อง5,772Laser Skin Resurfacing2,507
 Botox & Filler
 ความงามบรรจุเข็ม…ทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากลงมีดหมอ
ข้อควรรู้เรื่องโบท็อกซ์
“โบท็อกซ์” เป็นชื่อทางการค้าของโบทูลินั่มท็อกซิน โปรตีนชนิดหนึ่งซึ่งได้จากแบคทีเรียทำงานด้วยการคลายกล้ามเนื้อในบริเวณที่ ฉีด จึงเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้ที่ต้องการลบรอยตีนกา รอยเหี่ยวย่น หรือแม้แต่ผู้ที่กรามใหญ่และต้องการให้ใบหน้าเรียวเล็ก ภายในไม่กี่วันหลังจากฉีด สารพิษจะเข้าไปทำปฏิกิริยาเพื่อลดหรือหยุดการคลายตัวของกล้ามเนื้อไม่กี่วัน หลังจากฉีด สารพิษจะเข้าไปทำปฏิกิริยาเพื่อลดหรือหยุดการคลายตัวของกล้ามเนื้อผลดัง กล่าวไม่ถาวร และแม้ทาง FDA สหรัฐฯ จะเตือนว่าการฉีดโบท็อกซ์เป็นขั้นตอนทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็ยังไม่วายเกิดการจัด “ปาร์ตี้โบท็อกซ์” ซึ่งหลายครั้งไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมด้วย มิหนำซ้ำยังซื้อหาโบท็อกซ์จากอินเทอร์เน็ตที่มักมีราคาถูกกว่า โดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยเสียด้วยซ้ำ เราไปคุยกับ นพ.โกสินทร์ แจ่มเพ็ชรรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณจากสกินดอร์คลินิก ถึงอันตรายที่คุณควรรู้ก่อนคิดจะฉีดโบท็อกซ์กันเถอะ
ข้อเสียและผลข้างเคียงของโบท็อกซ์คืออะไร?
 “ประการแรก ก็คือ การเลือกผลิตภัณฑ์ผิด โบท็อกซ์ที่มีอย. ในบ้านเรามีแค่สามแบรนด์คือ Botox+ของอเมริกา Dyspoort+ของอังกฤษ และ Neuronox+ของเกาหลี ซึ่งก่อนฉีด คนไข้ควรจะถามคุณหมอก่อนว่าใช้ยี่ห้ออะไรและผลิตจากที่ไหน แล้วก็สังเกตขวดด้วย บางทีเดี๋ยวนี้คลินิกเถื่อนเขาฉลาดแอบเอาขวดคล้ายๆ กันมาทีนี้โบท็อกซ์จีนก็มีเหมือนกัน แต่ถ้ากระบวนการผลิตไม่ดีมันก็อาจติดเชื้อได้ เพราะสกัดไม่บริสุทธิ์พิษจะเป็นพิษเดียวกับบาดทะยัก ถ้าฉีดพลาดก็อาจรั่วไหลเข้าไปในเส้นเลือด สารพิษก็วิ่งเข้าไปในเลือดหมดเลย เคยมีหมอจีนเอามาฉีดเองแล้วก็เสียชีวิตจากกรณีนี้ พอฉีดเข้าไปแล้วก็เหมือนฉีดเอาพิษเข้าร่างกายนั่นแหละครับ
 ประการที่สอง เลือกของที่มีอย. ถูกต้อง แต่ฉีดผิดตำแหน่ง เช่น ฉีดลึกเกินไป ฉีดมากเกินไป ฉีดไม่บาลานซ์ ไปโดนกล้ามเนื้อบางมัดที่เราไม่ต้องการจะคลาย ก็จะเกิดอาการปากเบี้ยว คิ้วตก เคี้ยวไม่ได้
 ประการที่สาม คน ที่ฉีดไม่มีความรู้และประสบการณ์ เคยมีข่าวว่าคนที่ทำงานกับหมอเห็นหมอฉีดก็นึกว่าฉีดได้ ความจริงไม่ใช่นะเราต้องรู้กายภาพว่ากล้ามเนื้อมัดนั้นถูกมั้ย ถ้าผิดกล้ามเนื้อก็จะกลับไปสู่ปัญหาข้างต้น”
โบท็อกซ์เป็นสารพิษไม่ใช่หรือ? สารเหล่านี้ จะสะสมในร่างกายไหม?
“ถาม ว่าโบท็อกซ์เป็นสารพิษไหม? มันก็ใช่แหละครับ ความจริงแล้วมันเป็นสารพิษจากแบคทีเรียซึ่งเค้าเรียกว่า Botulinum Toxin Type A หลักการของเขาก็คือ ต้องฉีดในชั้นกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อที่หดก็จะคลาย กล้ามเนื้อที่โตก็จะเล็ก หรือฉีดให้แก่คนที่ปวดกล้ามเนื้อบ่อย ๆ เช่น เวลานั่งหน้าคอมพ์นาน ๆ เกร็งกล้ามเนื้อตลอด ก็จะฉีดในกล้ามเนื้อที่หดเกร็งให้ผ่อนคลาย
สาร พวกนี้ฉีดอย่างไรก็ไม่ถาวร ร่างกายจะกำจัดออกหมด บางคนสงสัยว่าฉีดนานๆ แล้วกล้ามเนื้อจะตายมั้ย? กล้ามเนื้อไม่ตายหรอกครับ เพราะฉีดปุ๊บร่างกายก็กำจัดออกหมด แต่มันจะดื้อเหมือนเรากินยาบ่อยๆ การฉีดบ่อยๆ ก็ดื้อเหมือนกัน เพราะอย่างนั้นถึงแนะนำไม่ให้ฉีดถี่เกิน 3 เดือนต่อครั้ง ส่วนคนที่ฉีดอย่างถูกต้อง โบท็อกซ์ก็จะอยู่ได้นานขึ้น”
ฟิลเลอร์ รู้ก่อนฉีด
สำหรับความงามที่คุณฉีดได้อีกประเภท ถ้าบอกว่าฉีด “กรดไฮยาลูรอนิก” หลายคนคงทำหน้างงหรือไม่ก็ต้องการแน่ ๆ แต่ถ้าพูดว่าฉีด “ฟิลเลอร์” หลายคนคงร้องอ๋อพูดว่าฉีด “ฟิลเลอร์” หลายคนคงร้องอ๋อ เพราะปัจจุบันมีการใช้ “สารเติมเต็ม” เพื่อเพิ่มวอลุ่มให้กิ่ว ซึ่งในสมัยก่อน มีประโยชน์อย่างมากในการรักษาร่องแก้มที่เป็นรอย ได้ตาที่โบ๋ ทำแก้มตอบให้เต็ม แต่ระยะหลังมีเทคนิคใหม่ๆ เช่น ฉีดสาร เติมเต็มเพื่อยกคิ้ว เดินขมับให้เต็ม และที่นิยมกันมากก็คือฉีดเสริมจมูกให้โด่งเป็นสัน ข้อดีของมันก็คือมีคนแพ้น้อยมาก แต่ข้อเสียก็คืออยู่ได้ไม่นาน และถ้ายิ่งอยู่นาน ผลข้างเคียงก็จะยิ่งมาก อาจทำให้เกิดอาการอักเสบ กลายเป็นก้อนแดง ๆ ได้ นพ.โกสินทร์ แจ่มเพ็ชรรันต์ อธิบายถึงความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “ยิ่งนานยิ่งดี” ว่าความจริงแล้วเป็นในทางตรงกันข้าม
ฉีดฟิลเลอร์พลาด แก้ไขได้ไหม?
เรา สามารถแบ่งฟิลเลอร์ได้เป็นสองประเภทคือ แบบที่อยู่ได้นาน 5 ปี กับแบบที่อยู่ได้ระยะสั้น ๆ ประมาณหนึ่งปี ซึ่งแบบหลังเป็นที่นิยมมาก เราเรียกว่ากรดไฮยาลูรอนิกสังเคราะห์
กรด ไฮยารูลอนิกสังเคราะห์ส่วนใหญ่จะได้จากแบคทีเรีย ซึ่งเป็นที่นิยมเพราะฉีดแล้วเห็นผลทันที ถ้าฉีดน้อยก็แค่ไม่ขึ้น ถ้าฉีดมากเกินไปก็มีตัวกำจัด เค้าเรียกว่า Hyaluromidase Enzyme หากฉีดไม่สวยก็ฉีดเอนไซม์ตัวนี้เข้าไปก็จะหายได้ ดังนั้น ข้อดีของมันคือเป็นมิตรกับผิว ฉีดมากได้ก็เอาออกได้
แบบ ที่อยู่ได้นานคือ คอลลาเจนสังเคราะห์ มักจะสกัดจากหนังแท้ของเนื้อวัว ข้อดีที่ผู้บริโภคคิดผิดกันก็คืออยู่ได้นาน 5 ปีแล้วถึงจะสลายไป แต่ลืมคิดไปว่าพอนานปั๊บ หน้าเสียก็เสียไป กว่าจะหายก็ 5 ปี ต้องเข้าไปขูดออกอย่างเดียว หรือไม่ก็รอให้ร่างกายกำจัดออกเอง
แล้วในรายการ “ตีสิบ” ที่เสียโฉม เป็นไปได้อย่างไรคะ?
เราก็จะมาพูดถึงซิลิโคนเหลวหรือพาลาฟิน ซึ่งในทางการแพทย์ไม่ใช้กัน แต่หมอเถื่อนจะใช้ ฉีดเข้าไปแล้วถาวร เอาออกไม่ได้ติดกับเนื้อเยื่อเลย ทีนี้ผู้บริโภคก็จะตกหลุมพรางกับคำว่าถาวรประหยัด โดยที่ลืมไปว่าความถาวรมันไม่ดี และพวกนี้จะเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิ เมื่อไหร่ร้อนก็จะเหลวย้อยตกลงมาพออุณหภูมิลดก็จะแข็ง เกิดพังผืดข้างใน เอาออกมาไม่ได้ต้องขูดออกมาอย่างเดียว ที่เราเห็นในตีสิบก็น่าจะเป็นกลุ่มที่ใช้พาลาฟินนั่นแหละครับ
ศัลยกรรม VS ฟัน
ถ้า มีการผ่าตัดปริมาณริมฝีปาก ก็จะมีผลโดยตรงในการทำให้ฟันเราเห็นน้อยลงหรือเห็นมากขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อในหน้าของเราทั้งหมด หรือการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ จะมีผลกับความยาวและสั้น ของริมฝีปาก อาจทำให้มองเห็นฟันมากขึ้นหรือน้อยลง ซึ่งการที่เห็นฟันน้อยลง โดยเฉพาะคนที่ยิ้มแล้วไม่เห็นฟันเลย ก็จะทำให้สภาพใบหน้าดูมีอายุมากขึ้นหรือดูบึ้งตึง หรือการยิ้มเห็นเหงือกมากเกินไปก็ดูไม่สวย
ทพ.ดร.อมรพงษ์ วชิรมน ศัลยแพทย์ช่องปาก ขากรรไกร ใบหน้า และทันตแพทย์จัดฟัน เวอร์เทคคลินิก
Expert’s Corner
ศัลยกรรม อันตรายแค่ไหน พลาดแล้วรักษาได้รึเปล่า เรามาคุยกับ พญ.ธวลิดา เวชชวณิชย์ หัวหน้าศูนย์ความงาม ร.พ.พญาไท 1 ผู้เชี่ยวชาญประจำเว็บไซต์ Doctorskinhouse.com
 Q : ในกรณีของรายการวีไอพีซึ่งเด็กอายุ 17 ปี อ้างว่าทำศัลยกรรมมาแล้ว 16 ครั้ง เด็กอายุเท่านี้ทำศัลยกรรมจะอันตรายมั้ยคะ? แล้วในกรณีนี้ถือเป็นการเสพติดศัลยกรรมรึเปล่า?
A : ก่อนอื่น ๆ ต้องขออธิบายว่า Plastic and Reconstruction Surgery หรือศัลยกรรมแก้ไขความผิดปกติซึ่งมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เราสามารถทำให้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดค่ะ เช่น เด็กเกิดมาปากแหว่งเพดานโหว่ ก็สามารถทำได้ตั้งแต่เด็ก เพียงแต่เค้ามีตัวชี้วัด (Indication) มีภาวะจำเป็นที่ต้องทำรึเปล่า เช่น ปากแหว่งเพดานโหว่แล้วไม่สามารถดื่มน้ำได้ มีอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิต หรือถ้าหนังตาตกมาปิด การมองเห็นภาพไม่ชัดเจน ก็ต้องแก่ไขตั้งแต่เด็ก ไม่จำเป็นต้องรออายุเยอะ
ที นี้ถามว่าจำนวน 16 ครั้ง ถือเป็นการเสพคิดศัลยกรรมได้ไหม? ได้ค่ะ มันจะมีโรคพวก Body Dysmorphic Disorder กลุ่มนี้เขาจะมองตัวเองยังไงก็ไม่สวยไม่ดี แล้วก็ยังต้องการให้สวยให้ดี ถือเป็นโรคทางจิตชนิดหนึ่งค่ะ
 Q : สำหรับคนไข้ที่ทำศัลยกรรมแล้วเกิดปัญหาหรือไม่ถูกใจแก้ไขได้ไหมคะ?
A : การแก้ไขขึ้นอยู่กับว่าปัญหามากหรือน้อยแค่ไหนค่ะ เช่น บางเคสทำจมูกเสริมซิลิโคนจากที่อื่นมาแล้วเบี้ยวไม่ได้รูปมาปรึกษาเรา เราก็สามารถปรับได้ โดยอาจเลาะแก้ไขใหม่ทั้งหมดหรือเติม Fiiler เพื่อลดมุม หลอกแสง ทำให้ดูแล้วไม่เบี้ยว (แต่จริง ๆ ซิลิโคมยังคงอยู่ตำแหน่งเดิม) มันแล้วแต่สภาพของคนไข้ และเทคนิคของหมอแต่ละคน การแพทย์เป็นศาสตร์และศิลป์ค่ะ หรือก็มีตัวอย่างคนไข้บางกลุ่มไปหาหมอเถื่อนตามสถานเสริมความงามที่อื่นมา อยากจะประหยัดเงินในการฉีดฟิลเลอร์ เขาก็ไปฉีดคอลลาเจนปลอม ซึ่งทำจากซิลิโคมปั่นแล้วนำมาผสมน้ำเกลือ พอฉีดปุ๊บก็จะกลายเป็นของแข็ง เป็นก้อน ทีนี้ร่างกายของเราเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป ก็จะสร้างเยื่อหุ้มเพื่อป้องกันอันตรายต่อร่างกาย มันถึงเป็นก้อนแข็ง ๆ พอเกิดการติดเชื้อก็จะเป็นหนอง หน้าบวมและ การแก้ไขก็คือต้องเอาสิ่งแปลกปลอมออก แล้วก็เย็บปิด แต่อาจจะมีแผลเป็นไม่กลับมาสวยเหมือนเดิมค่ะ
คนไข้ที่จะทำศัลยกรรมทุกคนควรตระหนักว่า การแพทย์ไม่มีอะไร 100% หมอไม่สามารถบอกคนไข้ได้ว่า “ทำออกมาแล้วสวยชัวร์หล่อชัวร์” ไม่ มีหมอคนไหนกล้าพูดแบบนี้ แต่หน้าที่ของหมอคือ เราจะลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด ปลอดภัยที่สุด ทำให้ดีที่สุดและคนไข้พอใจมากที่สุดค่ะ

35 วิธีง่าย ๆ ที่ทำให้โลกเป็นสิ่งสวยงาม

การดูแลสุขภาพ
ในชีวิตของแต่ละคน ก็จะมีเรื่องราวต่าง ๆ นานาเกิดขึ้นอยู่ตลอดมากมาย สุขบ้าง ทุกข์บ้าง สบายบ้าง หรือเดือดร้อนบ้าง ก็ถือเป็นสัจธรรมชีวิตอย่างหนึ่งที่มักจะวนเวียนเข้ามาในชีวิตของทุก ๆ คนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากมองในมุมของการใช้ชีวิตหลัก ๆ แล้ว หากใครที่เจอแต่เรื่องแย่ ๆ ก็มักจะมองโลกกลม ๆ ใบนี้ไปในแง่ลบอยู่เสมอ ๆ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เราไม่อยากจะให้มีอยู่ในความคิด ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามเลยแม้แต่น้อย
ดังนั้น เพื่อไม่ให้ความคิดแย่ ๆ เหล่านั้นมาเปลี่ยนโลกที่แสนสวยงามของคุณไปซะหมด ทางเว็บไซต์tinybuddha.com จึงได้รวบรวมกลเม็ด เคล็ด (ไม่) ลับเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติและมุมมองการใช้ชีวิตแบบง่าย ๆ ที่น่าสนใจและเหมาะกับทุกคน ทุกเพศ และทุกวัย
…งั้นเราไปดูกันดีกว่าว่า กลเม็ด เคล็ด (ไม่) ลับที่ว่านั้นจะมีอะไรบ้าง จะง่ายและน่าสนใจขนาดไหน เลื่อนเม้าส์ตามมาดูกันเลยยย..
 1. สิ่งต่าง ๆ จะเปลี่ยนแปลงให้สวยงามได้ ต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อน
 2. ต้องมีการปลูกฝังขนบธรรมเนียมประเพณีดี ๆ ตั้งแต่ยังเด็ก ๆ
 3. อย่าโลภมาก เดี๋ยวลาภจะหาย
 4. ต้องรู้จักสงบจิตสงบใจ
 5. มองโลกในแง่ดีเข้าไว้
 6. ยอมรับและฉลองเล็ก ๆ น้อย ๆ กับเรื่องน่าตื่นเต้นบางเรื่อง ที่ใครหลาย ๆ คนมองว่าเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว
 7. ละเว้นซึ่งอคติทั้งหลาย
 8. ยอมรับในสิ่งที่คนอื่น ๆ เป็น แม้จะไม่ค่อยเป็นที่ถูกใจคุณมากนักก็ตาม
 9. ใจเขาใจเรา ท่องเอาไว้
 10.จะสูงหรือเตี้ย จะอ้วนหรือผอม จะรวยหรือจน ฯลฯ ยังไงซะ เราก็ล้วนเป็นคนเหมือนกัน อย่าแบ่งแยก
 11. รับฟังความทุกข์ของผู้อื่น เพื่อช่วยกันแก้ไข
 12. จัดระเบียบทางความคิดให้ดี
 13. หันหลังให้กับการนินทาลับหลัง และการว่ากล่าวเสีย ๆ หาย ๆ
 14. ยอมรับในความคิดเห็นของผู้อื่น
 15. ทำในสิ่งที่ใจรัก แต่ต้องไม่เดือดร้อนใคร
 16. ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความรัก ทั้งรักตัวเอง ครอบครัว และสังคม
 17. มีไมตรีจิตดี ๆ ให้แก่กัน
 18. เปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิตด้วย
 19. คิดไว้เสมอว่า โลกเราเป็นสิ่งสวยงาม
 20. มองโลกให้สวยงามด้วยความตั้งใจจริง
 21. มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น อย่าเป็นคนใจแคบ ใจร้าย
 22. ต้องทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทางด้วยนะเออ
 23. รู้จักให้โดยไม่หวังผลตอบแทน
 24. ปลูกจิตสำนึกกับจิตอาสาที่พร้อมทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม
 25. เคารพคนอื่น ๆ เหมือนที่คนอื่น ๆ เคารพคุณ
 26. ไม่ตัดสินผู้อื่นจากภายนอก
 27. แสดงความรักและความอบอุ่นด้วยการ “กอด”
 28. อย่าท้อถอยกับชีวิต คิดเอาไว้ว่าสักวันหนึ่ง จะต้องเป็นวันของเราบ้าง
 29. เลือกรับเรื่องดี ๆ ให้เข้ามาสู่ชีวิตเยอะ ๆ ชีวิตจะได้มีความสุข
 30. การให้อภัยซึ่งกันและกัน เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
 31. เป็นตัวของตัวเอง และใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียงและเพียงพอ
 32. อะไรที่ยังไง ๆ ก็เป็นไปไม่ได้ หรือเกินตัวไปมาก ๆ ก็ลืม ๆ ไปซะ
 33. ลองทำในสิ่งใหม่ ๆ ที่ท้าทาย ๆ ดูบ้าง ชีวิตจะมีสีสันขึ้นอีกเยอะเลย
 34. โลกสวยด้วย “รอยยิ้ม” นะจ๊ะ
 35. ไม่ว่าจะเจอะเจอกับอุปสรรคใหญ่โตขนาดไหน จงมีสติ คิดให้รอบคอบ และใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีเหตุมีผล
ทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ ล้วนแล้วแต่เป็นมุมมองและวิธีการคิดดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณมองโลกใบนี้ในมุมมองที่สวยงามมากยิ่งขึ้นได้ และแน่นอนว่า จะทำให้คุณเกิดความสบายใจและพร้อมจะออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข มากยิ่งขึ้นอีกด้วย