วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

น้ำพริก กิ๊ก เมีย

"น้ำพริก-กิ๊ก-เมีย"

-มีเมีย ไม่มีกิ๊ก
เหมือนกินน้ำพริก ไม่มีผัก
- มีเมีย แล้วจมปลัก
เหมือนกินแต่ผัก ไม่จิ้มน้ำพริก
- มีเมีย แล้วมีกิ๊ก
เหมือนกินน้ำพริกจิ้มผัก
-มีกิ๊ก พอเมียรู้จัก
เหมือนโดนผลักตกลงครกน้ำพริก

วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ซิปกระโปรง


มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจะขึ้นรถเมล์ในตอนเช้าซึ่งคนก็เบียดเสียดยัดเยียดกันมาก ผู้หญิงคนนั้นนุ่งกระโปรงสั้นและคับมาก เธอก้าวขึ้นบันไดลำบากจึงเอื้อมมือไปปลดซิปกระโปรงด้านหลัง เธอพยายามรูดซิปประมาณ 4-5 ครั้ง แล้วผู้ชายข้างหลัง ก็ดันก้นผู้หญิงคนนั้น ให้ขึ้นไปบนรถเมล์ ด้วยความรักนวลสงวนตัว เธอจึงต่อว่าผู้ชายคนนั้นว่า คุณถือดียังไงมาดันก้นฉัน ผู้ชายคนนั้นก็ตอบกลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า แล้วคุณล่ะ ถือดียังไงมารูดซิปกางเกงผม

สั่งประหารอัยยการ

พยานศาล
อัยการเรียกยายชึ้นบนแท่นพยาน แล้วถามว่า ยายรู้จักอัยการคนนี้มั้ย
ยาย : สมชาย รู้จักแต่เด็ก เป็นเด็กโกหกหลอกลวง ขี้โม้ โกหกเมียว่าไปขึ้นศาลต่างจังหวัดประจำ
อัยการได้ยินก็เกิดอาการหงายเงิบ จึงชี้ไปทีทนายแล้วถามว่า รู้จักทนายมั้ย
ยาย: อ๋อ คำนวณ รู้จักแต่เด็ก เป็นเด็กขี้เกียจ ดื้อ ขี้เมา ชอบว่าความให้โจร เแอบมีชู้กับเมียคนอื่นมา 4 ครั้งแล้ว
ทนายคำนวณหัวใจเกือบวาย
ผู้พิพากษา : สั่งให้อัยการและทนายมาที่บัลลังก์แล้วกระซิบว่า
: ถ้าคุณถามยายว่า รู้จักผู้พิพากษามั้ย ฉันจะสั่งประหารชีวิตแกทั้งสอง

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

แฟนหมุ่ม

ลูกสาวพาแฟนที่คิดจะ แต่งงานมาบ้าน พ่อสาวขอคุยด้วยซักพักนึง ก็มาบอกว่า แต่งไม่ได้แล้ว เขาเป็นพี่น้องของลูก คือพ่อเคยหลับนอนกับแม่ ไอ้หนุ่มคนนี้ จนเกิดเขา
สาวเสียใจมาก แต่เหตุการณ์นี้เกิดซ้ำๆ ตั้ง 4 ครั้ง จนสาวทนไม่ได้ไปพูดกับแม่
สาว: อะไรกันเนี่ยแม่ แม่เป็นเมียแบบไหน ปล่อย พ่อเที่ยวได้ไปนอนกับผู้หญิงทั้งเมือง จนหนูมีพี่น้อง เต็มไปทั่วยังงี้?!! แต่งกะใคร ก็ไม่ได้!
แม่: อยากแต่งกะใคร ก็แต่งเลยลูก อย่ากังวล เขาไม่ใช่พ่อแก!!!!'

5555
☆★♡♥♥♡★☆


คนคนหนึ่ง

เรื่องราวของคนคนหนึ่ง

ชายคนหนึ่งเพิ่งจะมาพูดได้ ตอนอายุ 4 ขวบ
ชายคนนั้น...เพิ่งจะมาอ่านหนังสือออกตอนอายุ 8 ขวบ
ชายคน นั้น...เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียน
ชายคนนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนอาชีวะ แห่งซูริค
ชายคนนั้น...เคยถูกอาจารย์ระบุว่า "สมองช้าไม่ชอบสังคมและ ล่องลอยอยู่ในความฝันอันโง่เขลาของตัวเองตลอดเวลา"
ชายคนนั้น...ชื่อ "อัลเบิร์ต ไอสไตน์" บิดาแห่งปรมาณู
---------------------------------------------------------------ชายคนหนึ่งเคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนเตรียมทหารเวสต์พอยต์
ชายคนนั้น... ลองสมัครใหม่ดูอีกที
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอีกครั้ง
ชายคนนั้น...พยายาม เป็นครั้งที่สาม
ชายคนนั้น...ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียน
ชายคนนั้น...ได้ เป็นทหารสมใจ
ชายคนนั้น...เข้าไปอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ สองได้สำเร็จชายคนนั้น...ชื่อ "นายพล ดักลาส แมคอาเธอร์"ผู้พิชิตแปซิฟิคแห่งสงครามโลกครั้งที่สอง
---------------------------------------------------------------ชายกลุ่มหนึ่งเป็นนักดนตรี
ชายกลุ่มนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากผุ้บริหารคนหนึ่งจากบริษัทเดคคาเรคคอร์ต้ง
ชายกลุ่มนั้น...ถูกปฎิเสธด้วยเหตุผลที่ ว่า
"เราไม่ชอบเสียงเพลงของพวกเขา
และกลุ่มนักดนตรีที่เล่นกีตาร์กำลัง จะหมดสมัยแล้ว"
ชายกลุ่มนั้น...มีนามว่า "เดอะ บีเทิลส์" สี่เต่าทองแห่งตำนาน
---------------------------------------------------------------ชายคนหนึ่ง...เป็นนักกีฬา
ชายคนนั้น...เล่นบาสเกตบอลให้กับทีมโรงเรียนมัธยม
ชายคนนั้น...เคยถูกคัดออกจากทีมโรงเรียน
ชายคนนั้น...ชื่อ "ไมเคิล จอร์แดน"หนึ่งในนักกีฬาบาสเกตบอลที่ทำเงินมากที่สุดในโลก
---------------------------------------------------------------ชายคนหนึ่ง...เป็นนักแต่งเพลงชาวเยอรมัน
ชายคนนั้น...สูญเสียความสามารถ ในการฟังลงเรื่อยๆ
ชายคนนั้น...หูหนวกสนิทเมื่อมีอายุได้ 46 ปีชายคน นั้น...ได้ใช้ช่วงเวลาบั้นปลายชีวิตประพันธ์เพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ชายคน นั้น...ชื่อ "ลุดวิก ฟาน บีโธเฟน" นักประพันธ์เพลงชื่อก้องโลก --------------------------------------------------------------ชายคนหนึ่งสอบตกประถม 6
ชายคนนั้น...เคยมีชีวิตที่พ่ายแพ้และล้มเหลวมาตลอด
ชายคนนั้น...ล้วนทำประโยชน์ครั้งใหญ่ๆเมื่อเขากลายเป็นผู้สูงอายุแล้ว
ชายคนนั้น...ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่ออายุ 62 ปี
ชายคน นั้น...ชื่อ "วินสตัน เชอร์ชิล" อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ
---------------------------------------------------------------ชายคนหนึ่งเรียนปริญญาตรี
ชายคนนั้น...เคยถูกจัดให้เป็นแค่นักศึกษา ระดับกลางเท่านั้น
ชายคนนั้น...เคยสอบได้อันดับที่ 15 จากนักศึกษา 22 คนใน วิชาเคมี
ชายคนนั้น...ชื่อ "หลุยส์ ปาสเตอร์" ผู้ค้นพบวัคซีนในการรักษาโรคพิษสุนัขบ้า
---------------------------------------------------------------ชายคนหนึ่งเป็นนักร้อง
ชายคนนั้น...เคยถูกผู้จัดการของ แกรนด์โอเลโอ เพรย์ไล่ออก
ชายคนนั้น...เคยโดนดูถูกว่า
"แกมันไปไม่ถึงไหนเลยแกควร กลับไปขับรถบรรทุกมากกว่า"
ชายคนนั้น...ชื่อ "เอลวิส เพรสลีย์"
--------------------------------------------------------------หญิงคนหนึ่งเป็นนางแบบผู้เปี่ยมไปด้วยความหวัง
หญิงคนนั้น...ทำงานให้ กับบริษัทบลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่
หญิงคนนั้น...เคยโดนผู้อำนวยการบริษัทบลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่ดูถูกว่า
"เธอควรไปเรียนด้านเลขาฯหรือไม่ ก็แต่งงานเสียดีกว่า"
หญิงคนนั้น...ชื่อ นอร์มา จีน เบเกอร์
หรือที่รู้จัก กันในนาม "มาริลีนมอนโร" นั่นเอง
---------------------------------------------------------------
ชายคนหนึ่ง หลงใหลวิชาการเงินอย่างมาก
ชายคนนั้น...ยื่นใบสมัครกับ มหาวิทยาลัยธุรกิจฮาวาร์ดอันเลื่องชื่อ
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธในเวลาต่อ มา
ชายคนนั้น...ไม่ยอมแพ้ เดินหน้าเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยธุรกิจ โคลัมเบียชายคนนั้น...สำเร็จการศึกษา
ชายคนนั้น...ปัจจุบันมีสินทรัพย์ รวมกว่า 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐจากเงินลงทุนเพียง 100 เหรียญสหรัฐ
ชายคน นั้น...ชื่อ "วอเรน บัฟเฟตต์" นักลงทุนอัจฉริยะอภิมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก
--------------------------------------------------------------ชายคนหนึ่ง หลงใหลในคอมพิวเตอร์อย่างมาก
ชายคนนั้น...ชอบหมกตัวกับ คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ
ชายคนนั้น...ถูกเพื่อนมองว่า "สกปรก - บ้า คอมพิวเตอร์"
ชายคนนั้น...เคยเสนอซอฟแวร์ระบบให้กับ แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอย่างไม่ใยดี
ชายคนนั้น...ปัจจุบัน คือผู้ให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนกับ แอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...เคย ถูก ไอบีเอ็ม มองว่า "แค่เด็ก"
ชายคนนั้น...ปัจจุบันเป็นผู้นำบริษัทซอฟแวร์ ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก
ชายคนนั้น...ชื่อ วิลเลี่ยม เฮนรี่ เกตส์ ที่ สาม
หรือที่รู้จักกันในนาม"บิลล์ เกตส์" ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์ มหาเศรษฐี อันดับหนึ่งของโลกผู้ถือครองสินทรัพย์กว่า 46,000 ล้านเหรียญ -----------------------------------------------------------

เชื่อว่าทุกคนเคยแพ้
เชื่อว่าทุกคนเคยล้มเหลว
แต่คนแพ้ไม่ใช่คนที่ล้มเหลว
คนล้มเหลวคือ...คนที่ล้มเลิกต่างหาก

เอาความสุขมาฝาก

เอาความสุขมาฝาก

1.ความสุขไม่ได้อยู่ที่การมีบ้านหลังใหญ่แต่อยู่ที่ในบ้านนั้นมีรอยยิ้มเสียงหัวเราะ
2.ความสุขไม่ใช่รถคันหรูแต่คือการขับรถถึงบ้านปลอดภัย
3.ความสุขไม่ใช่การมีเงินเก็บเยอะแต่หมายถึงการได้ทำในสิ่งที่ชอบ
4.ความสุขไม่ใช่คนรักเราสวยหรือหล่อแต่ความสุขคือคนรักเรายิ้มได้งดงามเพียงใด
5.ความสุขไม่ใช่ยศฐาบรรดาศักดิ์แต่เป็นใครๆก็บอกว่าคุณเป็นคนดี
6.ความสุขไม่ใช่การได้กินอาหารดีใช้ของแพงๆแต่คือการไม่เจ็บไม่ป่วย
7.ความสุขไม่ใช่ตอนประสบความสำเร็จมีคนยินดีแต่เป็นตอนผิดหวังแล้วมีคนให้กำลังใจ

Sex

สมชายวัยเกษียณฯถามเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันว่า:
"มี sex กับกิ๊กบ่อยแค่ใหนวะ?"
เพื่อนวัย 80 ตอบ:
"เกือบทุกวัน"
สมชายตกใจมาก:
"ฮ้า.. ทำได้ยังงัย"
เพื่อนวัย 80 ตอบ:
"วันจันทร์ก็เกือบ
วันอังคารก็เกือบ
วันพุธก็เกือบ
เกือบ ๆ ๆ ๆ ทุกวัน"

สาวเหงา

สาวเอย
วันไหน ที่คุณเหงา ว้าเหว่ อยู่คนเดียวแบบซึมๆ
ให้เอามือคลำไปที่พุง
แล้วคุณจะรู้ว่า มีชั้น อยู่ช

ค่าน้ำนม

เพลงค่าน้ำนม(เวอร์ชั่นหนายเนี่ย)

(heart)แต่เล็กจนโต โอ้แม่เล่นหวย. ♪เลขสวยๆ แม่แทงไม่เหลือ ไม่เผื่อแผ่ใคร.♪ .. แม่เราชอบซื้อชุดใหญ่ หกสิบล้านล้อใจ .♪แม่บอกไว้ไง เป็นค่าน้ำนม.

(heart)♪ควรคิดพินิจให้ดี เลขโต๊ดเต็งงวดนี้. ♪จะมีเลขใดเหมาะสม .. โอ้ว่าแม่ฝัน เห็นห้าเลยคว้ามาชม .. เลือกเลขหกผสม **แล้วค่าน้ำนม ลูกก็ถูกกิน ..

(grin)(grin)(grin)

ความรู้ ความสุข ความทุกข์

ความรู้ต่างๆ คนเราสามารถเรียนรู้ทันกันได้
แต่ชีวิตของคนเราจะออกมา"แตกต่าง"กัน
ที่ ทัศนคติ มุมมอง และความตั้งใจ

ความ"แตกต่าง"นั้นจะเป็นเส้นที่ขีดแบ่งชีวิตเราด้วยว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต

ระหว่าง "ความสุข" กับ "ความทุกข์"

ความแตกต่างนี้ล้วนเกี่ยวข้องไปเกือบหมดทุกเรื่องตลอดช่วงชีวิตเราเลยทีเดียว

ดังนั้น...มันจึงสำคัญมาก.....!!


ข้อคิดธรรมะ

ขอฝากข้อคิดธรรมะสำหรับวันดีๆดังนี้
"สิ่งที่สูงกว่าเงิน มี 7 ประการคือ
(1) การได้เกิดมาเป็นคน
(2) การได้ยลพระพุทธศาสนา
(3) การมีกัลยาณมิตร
(4) การมีความสุจริตเป็นนิสัย
(5) การมีใจปราศจากริษยา
(6)การมีเวลาให้แก่บุคคลอันเป็นที่รัก
(7)การรู้จักสะกดคำว่า พอ
(จาก. สิ่งที่สูงกว่าเงิน. โดย ว.วชิรเมธี )

วันหยุดยาว เข้าพรรษา

วันหยุดยาว เข้าพรรษา อาสาฬหบูชา
เจริญสุข เจริญปัญญา เจริญศรี
เจริญศีล เจริญธรรม นำสวัสดี
เจริญทวี เจริญภาวนา พาเจริญใจ

เจริญกิน เจริญเที่ยว เจริญทั่ว
เจริญครอบครัว เจริญมิตร เจริญได้
เจริญไอติม เจริญทุเรียน น่ะ!!..อันตรายย
พุงจะหญ่ายย..คางจะย้อยย..ห้อยทั้งตัว

ด้วยรักมาก หากไปไหน ไกลหรือใกล้
ขอคุณพระ คุ้มภัย ให้ถ้วนทั่ว
มีความสุข ปราศทุกข์ใจ ไร้ขุ่นมัว
ทั้งครอบครัว ล้วนรื่นรมย์ สมใจเอย😍😍


ธรรมะวันเข้าพรรษา

ธรรมะวันเข้าพรรษา

ข้อคืดดีในวันมงคล
สามสิ่ง(flower) ในชีวิตที่ไม่หวนกลับคือ เวลา คำพูด และโอกาส
🎭🎭🎭🎭🎭🎭🎭🎭🎭
สามสิ่ง(flower)ที่มีคุณค่าต่อชีวิต คือ ความรัก ความสุข และมิตรภาพ
♨♨♨♨♨♨♨♨♨
สามสิ่ง(flower) ที่ไม่แน่นอน คือ ความฝัน ความสำเร็จ และโชคชะตา
💥💥💥💥💥💥💥💥💥
สามสิ่ง(flower) ที่นำไปสู่ความพินาศของคน คือ ความมัวเมา ความเย่อหยิ่ง และ ความโกรธ
😊😊😊😊😊😊😊😊😊
สามสิ่ง(flower) ที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ในการสร้างบารมี
คือการให้ทาน การรักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา(shiny)

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นกอก้ว

มีคุณนายคนหนึ่ง ปากจัดเที่ยวด่าคนทั่วหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงแอบสอนนกแก้วที่แกเลี้ยงไว้ ให้พูดว่า'ขอให้คุณนายตายเร็วๆ' เจ้านกแก้วก็ทำตามทุกวัน คุณนายกลุ้ม จึงไปปรึกษาท่านเจ้าอาวาสวัดใกล้ๆ ท่านเจ้าอาวาสเห็นใจ จึงให้นกแก้วใส่กรงไปอีก 2 ตัว บอกคุณนายว่า 'นี่เป็นนกธรรมะ นิสัยดี คงจะช่วยแก้นิสัยนกแก้วบ้านโยมได้' คุณนายดีใจ พอกลับบ้านก็รีบนำกรงนกแก้วจากวัดไปแขวนคู่กับนกแก้วตัวเดิม เจ้านกแก้วเก่าเห็นคุณนายเข้า ก็ร้องว่า 'ขอให้คุณนายตายเร็วๆ' ทันทีทันใดนั้น นกแก้ว 2 ตัวจากวัด ก็เปล่งวาจาพร้อมกันว่า"สาธุ"!!!

วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ลูกช้าง

สัตวแพทย์ได้สรุปสาเหตุออกมาแล้วถึงสาเหตุที่ลูกช้างได้ตายเป็นจำนวนมากหลายชีวิตสาเหตุมาจากนักการเมืองทั้งหลายที่ชอบสบถสาบานก่อนที่จะมาทำงานโกงบ้านกินเมืองนั่นเอง โดยที่นักการเมืองได้สาบานไว้ว่า ลูกช้างขอสาบานตนถ้าลูกช้างได้ทำงานรับใช้บ้านเมืองแล้วโกงกินขอให้ลูกช้างมีอันเป็นไปดังนั้นลูกช้างจึงเสียชีวิตมากด้วยสาเหตุนี้นี่เองง

ปาท่องโก๋

ร้านขายปาท่องโก๋แห่งหนึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมากว่าอร่อยเหลือเกิน เพราะการนวดแป้งซึ่งเป็นสูตรลับเฉพาะของทางร้าน
ลูกค้า : อ้าว วันนี้ร้านปิดเหรอจ๊ะ พ่อค้า : ครับ บังเอิญเมื่อวานผมโดนเศษแก้ว. บาดก็เลยนวดแป้งไม่ได้ ลูกค้า : ว้า...เสียดายจัง แล้วอย่างนี้อีกกี่วันถึงจะได้กินปาท่องโก๋ล่ะ
พ่อค้า : ก็ต้องรอจนกว่า "แผลที่เท้าผมจะหายดีก่อนน่ะครับ"
...¡¡¡¿¿¿

วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นิทานอีศพ

A : กาลครั้งหนึ่ง......มีหญิงสาวคนหนึ่งนอนตายอยู่ริมน้ำ......จบ. B: นิทานไรวะ ? มีแค่นี้. A : นิทาน อีศพ ว่ะ. B: ...????

วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เหตุผลที่ต้องมีอะไรก่อนแต่งงาน ของยุคสมัยนี้

เหตุผลที่ต้องมีอะไรก่อนแต่งงาน ของยุคสมัยนี้

http://m.youtube.com/watch?v=rWuyhfCClFo

ดูแล้วฮาดีนะ

หุ่นยนต์สาว!"


หุ่นยนต์สาว!"

-สมชายไปหา สมบัติที่ทำงาน ต้องสะดุดตากับเลขาสุดเซ็กซี่ของสมบัติ จึงกระเซ้าสมบัติว่า"มิน่า ช่วงนี้ขยันมาทำงานจังเลย"
-สมบัติรีบอธิบาย"เฮ้ย นี่มันหุ่นยนต์ ถ้าแกบีบหน้าอกขวาหล่อนจะจดตามที่แกสั่งทุกอย่าง แล้วถ้าแกบีบหน้าอกซ้ายหล่อนจะพิมพ์ดีดได้อย่างรวดเร็ว,ไม่ลากิจ,ไม่ลาป่วย,ไม่บ่น,เอาอย่างนี้ ถ้าสนใจผมให้ยืมไปใช้สัก7วัน"
-สามวันต่อมาสมบัติต้องไปเยี่ยมสมชายที่รพ,พอเจอหน้า สมชายต่อว่าสมบัติเสียงดัง "ไอ้บัตทำไมมึงไม่บอกกูว๊ะ ว่า ไอ้รูตรงกลางหว่างขา เป็นที่เหลาดินสอ"..หือ.หือ..มึง..

เศรษฐีนีประกาศหาคู่


เศรษฐีนีหญิงนางนึง
อายุก็ประมาณ 40 กว่า
ได้ประกาศหาชายหนุ่ม
มาแต่งงานด้วย
แต่ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. ห้ามตบตีเวลาทะเลาะกัน
2.เวลาทะเลาะกันห้ามเดินหนี
3.ต้องมีเซ็กส์ที่ดีเยี่ยม ...

วันรุ่งขึ้นเสียงเคาะประตูดังขัึ้น ปังๆ
เศรษฐีนีได้เปิดประตูออกไป
ภาพที่พบคือ ชายแขนขาด้วน
นั่งวีลแชร์

ชายผู้นั้นบอกว่า
ผมมาสมัครเป็นสามีคุณครับ ผมตรงตามคุณสมบัติทุกอย่าง

ผมจะไม่ตบตีคุณเพราะแขนผมด้วน ผมจะไม่เดินหนีคุณเวลาทะเลาะกัน
เพราะขาผมด้วน
และสุดท้ายเรื่องเซ็กส์
คุณคิดเองว่า

เมื่่อกี้ผมเอาอะไรเคาะประตู.

ลูกสาว

สำหรับคนที่มีลูกสาวอย่าสอนแบบนี้นะ
น้องแทมมี่เด็กสาวอายุ 11 ขวบ เกิดและโตที่เมืองนอกเพิ่งกลับจากเมืองนอก
เดินผ่านได้ยินแม่ค้า ด่าทอกัน
น้องแทมมี่ไม่เข้าใจ กลับไปถามพี่เลี้ยงว่า "
ไอ้ควาย กระเจี้ยว และ อีจิ๋ม มันคืออะไร พอพี่เลี้ยงได้ฟังก็ตกใจ ถ้าแปลให้ฟังตรงๆ ก็กลัวคุณผู้หญิงไล่ออก ก็เลยโกหกไปว่า
"ไอ้ควาย" แปลว่า ตำรวจ
"กระเจี้ยว" แปลว่า รถ
"จิ๋ม" แปลว่า โทรทัศน์
..ตกเย็น มีตำรวจเพื่อนคุณพ่อ มาบ้าน น้องแทมมี่เห็นเข้า ก็รีบพูดขึ้นว่า
"อ้าว..ไอ้ควาย เข้ามานั่งก่อนซิคะ คุณพ่อกำลังล้างกระเจี้ยว อย

โทรศัพทย์แพง

สามี : นี่ทุกคน บิลค่าโทรศัพท์ที่สูงขึ้นอย่างน่าใจหาย ที่สำคัญผมไม่เคยใช้โทรศัพท์ที่บ้านเลย ใช้แต่โทรศัพท์ของที่สำนักงานทั้งนั้น

ภรรยา : ฉันก็เหมือนคุณนั่นแหละค่ะ ใช้โทรศัพท์ของที่ทำงาน นานๆ ครั้งจึงจะได้ใช้โทรศัพท์บ้าน

ลูกสาว : ใช่ค่ะพ่อ หนูก็โทรศัพท์มือถือของที่บริษัท โทรศัพท์บ้านไม่เคยแตะเลยค่ะพ่อ

สาวใช้ : ค่าโทรศัพท์ไม่น่าแพง นู๋ก็ใช้โทรศัพท์ของที่ทำงานเหมือนกัน
^^^

อวัยวะ

ปอด >> ใช้ฟอกโลหิต ถ้าปอดแหกจะเก็บความกล้าหาญไว้ไม่ได้

นม >> อวัยวะที่ผู้หญิงอยากให้ยื่นไปข้างหน้ามากกว่าพุง

ศอก >> ใช้เป็นอาวุธประจำกาย หรือใช้รองน้ำดื่มสำหรับหญิงที่มาทีหลัง

ตัว >> เป็นชิ้นส่วนใหญ่ของร่างกาย มักจะลืมกันมากในเวลาได้ดิบได้ดี

สะดือ >> ใช้เชื่อมต่อกับแม่ตอนอยู่ในครรภ์ เมื่อโตใช้วัดความสุภาพ ถ้าอยู่ต่ำกว่าสะดือ ถือว่าทะลึ่ง

ขาอ่อน >> มักนิยมใช้ประกวดเพราะมองเห็นง่ายกว่าสมอง

หัวเข่า >> ผู้หญิงใช้โจมตีจุดอ่อนของผู้ชาย บางคนใช้เช็ดน้ำตาเวลาเศร้าโดยเฉพาะคนที่แอบรักผัวชาวบ้านเขา

ของขลัง

อาจารย์ : อาจารย์ให้ของขลังไว้ป้องกันตัว
ลูกศิษย์ : อะไรอาจารย์
อาจารย์ : กุมารทอง นางกวัก ความขลังไม่ต้องพูดถึง เพื่อนของอาจารย์เป็น อบต. วันแรกรับตำแหน่ง เดินออกมาหน้าบ้าน มีมือปืนขับมอเตอร์ไซค์มา จะยิง อบต. กุมารทองบังร่างของ อบต.ไว้ มือปืน มองไม่เห็น ขับมอเตอร์ไซค์ผ่านไป นางกวักกลัวน้อยหน้า กวักมือเรียกมือปืนกลับมายิง

สรุป อบต.ตายคาที่

ไข่เด็ก ป.3

เด็กป. 3: ไข่อะไรแพงที่สุด

สมหญิง: ไข่ไก่

เด็กป. 3: ผิด

สมหญิง: ไข่เป็ด

เด็กป. 3. ผิด

สมหญิง: ไข่ปลาจาระเม็ด

เด็กป. 3: ผิด

สมหญิง: ไข่ปู

เด็กป. 3: ผิด

สมหญิง: โอ๊ย ไม่ทายละ บอกมา

เด็กป. 3: ไข่เหี้ย

สมหญิง: จะบ้าเรอะ มีด้วยไข่เหี้ยไร

เด็กป. 3: ไม่รู้สิ ไปตลาดทีไร คนบ่นว่าไข่เหี้ยไร แพงฉิบหาย

สมหญิง: ?!!!!




ย้อนความหลัง

สามี นั่ง เหม่อ ตรงระเบียงเป็นเวลานาน ภรรยาสงสัยจึงเดินเข้าไปถาม..
ภรรยา : "คิดอะไรอยู่หรือ คะ พี่"
สามี : "จำได้มั้ย วันนี้เมื่อยี่สิบปีที่แล้วพ่อน้องจับได้ว่าพี่เข้าหาน้อง"
ภรรยา : "จำได้สิพี่"
ภรรยาพยักหน้าหงึกๆ..สามีเล่าต่อ ..
สามี :"แล้วพ่อน้องก็ให้พี่เลือกว่าจะมาสู่ขอน้องหรือว่าจะยอมติดคุก 20 ปี แล้ว พี่ก็เลือกแต่งกับน้อง"
เมียพยักหน้าอาการ รับรู้ ..แต่ยังสงสัย
ภรรยา : " แล้วพี่นั่งคิดอะไรอยู่ล่ะ "
สามี : "พี่คิดอยู่ว่า ถ้ายอมติดคุก วันนี้พี่่ก็พ้นโทษแล้ว"

ฆ่าตัวตาย

้ ฆ่าตัวตาย
หญิงชราวัยเจ็ดสิบปีปลาย เบื่อชีวิตที่อยู่มานานไม่ตายซักที เลยวางแผนจะฆ่าตัวตายด้วยปืน จึงโทรศัพท์ไปปรึกษาแพทย์ประจำตระกูล "คุณหมอขา หัวใจคนเรามันอยู่ตรงไหน?"

หมอ "อยู่สูงจากหัวนมด้านซ้ายประมาณ 2 นิ้ว"

พอรู้ชัด หญิงชราก็จัดการกดเปรี้ยง เดือดร้อนญาติต้องนำส่งร.พ.
"อ้าวคุณยายเป็นอะไร?"
"แกยิงตัวตายคะหมอ"
"กระสุนถูกตรงไหน?"
ญาติตอบ "หัวเข่าด้านซ้ายคะ"

.......สัจธรรม.....

ผัวชวนเมียท่องแดนแสยสุข


ผัวชวนเมีย ท่องแดน ที่แสนสุข
หวังสนุก เมียตามใจ ไม่ขัดผัว
เมียบอกพี่ อย่าแรงนัก ชักหวั่นกลัว
พ่อทูนหัว ไม่เคยยั้ง สักครั้งเดียว
พอผัวเร่ง อย่างแรง เมียร้องลั่น
บอกใจสั่น พี่เร่งเเรง แกล้งให้เสียว
ผัวบอกน้อง ชอบสะดิ้ง เสียจิงเชียว
เร่งเต็มเหนี่ยว เมียยิ่งบ่น ไม่สนใจ
ผัวโยกซ้าย ย้ายขวา ท่าซิกแซ็ก
เมียหอบแหก กอดเอวผัว ตัวสั่นไหว
เมียร้องวี้ด เสียงดังสุด หยุดทันใด
กูไม่ซ้อน มอเตอร์ไซค์ อีกแล้วมึง

เครื่องซักผ้า

ครอบครัวเล็กๆ ผัวเมียอยู่ด้วยกันมีลูก 2 คน นอนในห้องเดียวกัน ค่ำคืนใดมีความต้องการต้องรอให้ลูกทั้งสองหลับสนิทก่อน ซึ่งจะต้องใช้ข้อความเป็นรหัสที่รู้กันระหว่างผัวกับเมีย ค่ำคืนนี้ผัวมีความต้องการจึงบอกกับเมีย "แม่มึงคืนนี้พ่ออยากซักผ้า" เมียตอบว่า "รอก่อนเครื่องซักผ้ายังไม่ว่าง" เนื่องจากลูกๆยังไม่หลับ ฝ่ายเมียรีบเข้าไปกล่อมลูกจนหลับสนิทรีบส่งข้อความบอกผัวทันที "พ่อมึงเครื่องซักผ้าพร้อมแล้ว" ฝ่ายผัวตอบกลับทันที "ไม่ต้องแล้ว พ่อซักด้วยมือเรียบร้อยแล้ว รอไม่ไหว"

สามีที่ดี

"่สามีที่ดี"
ต้องทำความดี 4 ประการ ดังนี้
🌟ดีที่1 "ดีที่หู"
คืออย่าหูเบา ต้องไตร่ตรอง ต้องหนักแน่น

🌟ดีที่2 "ดีที่หัน"
คือให้หันดูรอบข้าง เลือกใช้คนดี เลือกคบคนดีแล้วเราก็จะได้ดีไปด้วย

🌟ดีที่3 "ดีหลายๆ เท่า"
ทำดีแล้วให้ทำอีก ทั้งการพูดการกระทำ จะได้ความดีทวีคูณจริงๆ

🌟ดีที่4 "ดีอย่าห่างเหิน"
เมื่อได้ดีแล้วก็อย่าลืมญาติมิตร ต้องเสมอต้น เสมอปลาย ...

ปล. อ่านอย่างเดียวนะ ..
ห้ามผวนเด้อ ... ซิบอกไห่!!

วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

จิต

จิต เป็นสังขารธรรมอย่างหนึ่ง เป็นธรรมที่ปรุงแต่งได้ และมีลักษณะเกิดดับอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย (รายละเอียดในเรื่องนี้ มีปรากฎชัดในพระอภิธรรมซึ่งหาอ่านได้ไม่ยากนักครับ)จนดูเหมือนว่าจิตนั้นดำรงอยู่อย่างนั้นอย่างไม่เคยดับเลย และเป็นที่รับรู้หรือได้ยินได้ฟังมาว่า "จิตคือธาตุรู้" หรือ "จิตคือธรรมชาติรู้" แต่ธรรมชาติของจิตเองหาได้เป็นเพียงแค่ "รู้" เพียงอย่างเดียวไม่ แต่มีอย่างอื่นๆที่เป็นธรรมชาติของจิตด้วย

เมื่อมีผัสสะ และจิตออกรู้ไปในทวารต่างๆแล้ว จิตจะปรุงแต่งธรรมใดธรรมหนึ่งขึ้นมาด้วย คือ เวทนา ไม่ว่าจิตนั้นจะประกอบไปด้วยปัญญาหรืออวิชชา ล้วนแต่ต้องปรุงแต่งเวทนาขึ้นมาด้วยทั้งนั้น อันนี้เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของจิตเช่นกัน แต่เวทนาที่จิตปรุงแต่งขึ้นนี้ จำกัดเฉพาะเวทนาทางใจเท่านั้น มิได้รวมเวทนาทางกายไว้ด้วย (สังเกตได้โดยง่ายได้ว่า เวทนาทางใจ มักปรากฎอยู่บริเวณกลางทรวงอก อาจจะเคลื่อนไปทางลิ้นปี่ ท้องส่วนบน หรือทรวงอกส่วนบนได้บ้างในบางเวลา บางเหตุการณ์ หากแต่เวทนาทางกายนั้น จะพบว่ามีอยู่โดยทั่วไปแทรกอยู่ตามเนื้อตามตัว บางครั้งมีทั้งเวทนาทางกายและทางใจที่คล้ายๆกันเกิดขึ้น จนเหมือนว่ามีเต็มไปหมดทั้งตัว จนแยกไม่ออก ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะไม่ใช่สาระสำคัญสำหรับการแยกเรื่องเวทนาทางกายหรือทางใจ)

จิตที่ปรุงแต่งเวทนานี้ เกิดขึ้นไม่จำกัดบุคคล แม้แต่พระอรหันต์ผู้สิ้นกิเลสแล้วก็ตาม ดังนั้น สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรือ อทุกขมสุขเวทนา ทางใจ ย่อมเกิดขึ้นได้กับพระอรหันต์ด้วย สวนเวทนาทางกายนั้นมีอยู่แล้ว ไม่ต้องวินิจฉัย เพราะกายมีอยู่

ผู้คนบางพวกเข้าใจว่า พระอรหันต์ต้องไม่ยิ้ม ต้องเป็นเหมือนเสาหรือตอไม้ ปราศจากความรู้สึกใดๆ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด ตรงนี้เป็นความเข้าใจผิดเรื่องเวทนา

บางพวกถึงกับไปเข้าใจว่า เป็นพระอรหันต์แล้วต้องเป็นอัมพาต (หากมีชีวิตอยู่) เพราะต้องหมดความรู้สึก ซึ่งตรงนี้เป็นความเข้าใจผิดเรื่องผัสสะ

เมื่อจิตออกรู้ไปตามทวารต่างๆแล้วปรุงแต่งให้เกิดเวทนานั้น ตามความเป็นจริงแล้ว สัญญาก็ถูกปรุงแต่งออกจากจิตด้วย เพื่อหมายรู้ในผัสสะนั้น แล้วจึงจะปรุงแต่งเวทนาออกมาได้ และในบางทีก็มีการปรุงแต่งความคิดออกมาด้วย (ตรงนี้ผมไม่ได้แย้งในปฏิจจสมุปบาทครับ หากแต่เพิ่มเติมตามที่ได้รู้มา)

การปรุงแต่งของจิตที่ให้เป็นสัญญาขันธ์ และเป็นสังขารขันธ์ นั้นมีอยู่ และไม่จำกัดว่าเป็นเฉพาะของผู้ยังไม่สิ้นกิเลสเท่านั้น ดังนั้นแม้เป็นผู้สิ้นกิเลสแล้ว ก็ยังสามารถจำได้ พูดได้ คิดได้ เพราะขันธ์ทั้ง 5 มิได้หายไปไหน มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นคราวๆตามผัสสะที่มีมา

และตรงนี้ก็เป็นธรรมชาติของจิตล้วนๆ ไม่ต้องแบ่งเป็นธรรมชั้นไหน เพราะเป็นไปกับจิตทุกดวงที่ยังเกิดดับๆไม่รู้จบอยู่ และไม่ว่าจะสิ้นกิเลสไปแล้วหรือไม่

สิ่งที่ธรรมชาติของจิตมีความแตกต่างในการดำเนินไปนั้นมีอยู่หลังจากนี้ กล่าวคือ เมื่อจิตรู้อารมณ์แล้ว จิตจะทะยานอยากเข้าไปยึดถือในอารมณ์ว่าเป็นตนของตนหรือไม่

จิต ทะยาน-อยาก(คือ ตัณหา) เข้ายึดถือ  (คืออุปาทาน) อารมณ์ มาเป็นตน(คือ ภพ-ชาติ) เมื่อใด ทุกข์ก็เกิดขึ้นเมื่อนั้น ตรงตามปฏิจจสมุปบาทสายสมุทัย ไม่ผิดเพี้ยน และเมื่อทุกข์เกิดขึ้นแล้ว จิตเองก็ไม่สามารถหนีออกจากทุกข์นั้นได้ แม้ตนเองไม่ปราถนาทุกข์อันนั้น จำต้องเสวยทุกข์อันนั้นไป จนกว่าทุกข์นั้นๆจะดับไป แม้ว่าทุกข์เหล่านั้นเป็นสิ่งที่จิตปรุงแต่งขึ้นมาเองก็ตาม

แต่หากจิตไม่ทะยานอยาก ก็จะไม่เกิดอะไรขึ้น และรวมทั้งทุกข์ด้วย

ดังนั้นธรรมชาติของจิต เมื่อพิจารณามาถึงตรงนี้ แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ

1. มีความทะยานอยาก
2. ไม่มีความทะยานอยาก

ตรงนี้เป็นประเด็นที่สำคัญประเด็นหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการพ้นทุกข์ เพราะตัวทะยานอยาก หรือ ตัณหา จึงเป็นทุกขสมุทัยแท้จริง จึงเป็นสิ่งที่ควรละ ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ชัดเจนแล้วในเรื่องกิจในอริยสัจจ์ แต่จะละอย่างไร? เราจึงควรดูที่มูลเหตุของ ทะยาน-อยาก กันก่อน

อะไรคือมูลเหตุของความทะยาน-อยากของจิต
จิตพุ่งทะยานออกไปอยากก็เพราะจิตเข้าใจว่า สิ่งนั้นๆเป็นสุข เป็นสิ่งที่ยั่งยืน หรือจิตมีอำนาจเข้าบังคับควบคุมได้ตามปราถนาของจิต ซึ่งจริงๆแล้วกล่าวอย่างนี้ก็ไม่ถูกต้องนักครับ เพราะตอนที่จิตทะยานอยากออกไปนั้น จิตไม่ได้คิดอะไรมากกว่า จิตไม่ได้เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรมากกว่า ซึ่งที่จริงควรจะกล่าวว่า "จิตพุ่งทะยานออกไปอยากก็เพราะจิตไม่เข้าใจว่า สิ่งนั้นๆเป็นทุกข์ เป็นสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงไม่อยู่ยั่งยืน หรือจิตไม่มีอำนาจเข้าบังคับควบคุมได้ตามปราถนาของจิต"

หรือกล่าวสั้นๆว่า จิตไม่รู้(ความเป็นจริง) หรือ จิตโง่ ก็ได้

ไม่มีจิตดวงใดอยากเป็นทุกข์ แต่ที่ต้องแบกทุกข์ก็เพราะไม่รู้ว่านี่คือการหาทุกข์มาแบก ดังนั้นเมื่อต้องการให้จิตเลิก "หาเหาใส่หัว" ก็ต้องทำให้จิตฉลาดขึ้น จนฉลาดถึงที่สุด เมื่อจิตฉลาดจนถึงที่สุด จิตก็จะได้เลิก "หาเหาใส่หัว" ซึ่งก็คือการเลิก "ทะยาน-อยาก"นั่นเอง

เลิกทะยาน-อยาก(ละตัณหา)ทำอย่างไร
จากที่ได้กล่าวมาแล้วว่า จิตมีธรรมชาติอยู่ 2 ประการคือ
1. มีความทะยานอยาก
2. ไม่มีความทะยานอยาก
หลังจากที่มีผัสสะ ดังนั้นจิตย่อมมีความเป็นไปโดยธรรมชาติของจิตเองซึ่งไม่มีใครไปสั่งหรือบังคับได้ (จิตเป็นสังขารธรรม ดังนั้นจิตเองก็เป็นอนัตตา) ว่าให้ทะยานอยาก หรือไม่ทะยานอยาก

วิธีการที่จะทำให้จิตเลิก ทะยาน-อยาก ก็คือ ทำให้จิตฉลาดขึ้น หรือ ฉลาดจนถึงที่สุด ว่า สิ่งทั้งหลายที่จิตทะยานอยากไปนั้น "เป็นทุกข์" "มีความแปรปรวนเปลี่ยนแปลง" และ "ยึดถือเอามาเป็นตนหรือของตนไม่ได้" ซึ่งก็คือการพิจารณาในธรรมทั้งหลายว่าเป็นไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั่นเอง

การปฎิบัติธรรมจึงมิใช่การบังคับจิต มิให้ทำอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้ แต่แท้จริงแล้วเป็นไปเพื่อให้จิตรู้ความจริงของธรรมชาติอย่างแท้จริงเท่านั้น เพื่อให้จิตเลิก ทะยาน-อยากในสิ่งต่างๆเท่านั้น ซึ่งจิตจะเลิก ทะยาน-อยาก ได้ เมื่อจิตได้รู้ได้เห็นอย่างแจ่มแจ้งว่า สิ่งทั้งหลายที่จิตเคย ทะยาน-อยาก ไปนั้น ล้วนแต่เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ทั้งสิ้น เมื่อจิตได้รู้ได้เห็นเช่นนั้นแท้จริงแล้ว ทะยาน-อยาก ก็จะไม่มีอีก ทุกข์ก็จะไม่มีอีกต่อไป

ดังนั้นเราจึงควรกำหนดรู้ทุกข์ให้มาก ซึ่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงแสดงไว้ในกิจอริยสัจจ์อยู่แล้ว ว่า ทุกข์ให้กำหนดรู้

เมื่อจิตกำหนดรู้ทุกข์จนมีความฉลาดจนถึงที่สุด จิตก็จะละ ทะยาน-อยากออกไปจนหมดสิ้น ภพ-ชาติ อันเป็นผลพวงจาก ทะยาน-อยาก ก็จะไม่มี กิจในอริยสัจจ์ก็จบเพียงนี้ ไม่มีกิจใดที่ต้องทำอีก แม้แต่พรหมจรรย์ก็จบสิ้นลงแต่เพียงนั้น ดังนั้นเราจึงควรกำหนดรู้ทุกข์

กำหนดรู้ทุกข์ทำอย่างไร
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงวิธีการกำหนดรู้ทุกข์ไว้มากมาย ปรากฎทั่วไปหมดในพระไตรปิฏก แต่หากจะตอบรวบรัด ก็คือ การปฎิบัติตามมหาสติปัฎฐานสูตร นั้น คือการกำหนดรู้ทุกข์ เป็นทวารแห่งการพ้นทุกข์ เป็นทวารแห่งความหลุดพ้น ซึ่งพุทธศาสนิกชนควรก้าวเข้าไปทุกผู้ทุกคน ส่วนรายละเอียดนั้นมีแสดงไว้มากมายอยู่แล้ว แม้แต่ในลานธรรมฯแห่งนี้ จึงขอให้ท่านผู้สนใจเลือกอ่านและเลือกกำหนดรู้ทุกข์ตามความถนัดเถิดครับ

ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม...

"ธรรมมะวันวิสาขบูชา"

"ธรรมมะวันวิสาขบูชา"

สามสิ่ง: ในชีวิตที่ไม่หวนกลับคือ เวลา คำพูด และโอกาส

สามสิ่ง: ที่มีคุณค่าต่อชีวิต คือ ความรัก ความสุข และมิตรภาพ

สามสิ่ง: ที่ไม่แน่นอน คือ ความฝัน ความสำเร็จ และโชคชะตา

สามสิ่ง: ที่นำไปสู่ความพินาศของคน คือ ความมัวเมา ความเย่อหยิ่ง และความโกรธ

สามสิ่ง: ที่สงบแท้ คือให้ทาน ถือศีล และภาวนา

สามสิ่ง: ที่นำไปสู่ความเจริญของ มนุษย์คือ คุณธรรม ความดี และกตัญญู

สามสิ่ง: ที่ต้องกตัญญคือ กตัญญูต่อพ่อแม่ ครูอาจารย์ และผู้มีพระคุณ

นิทานวงเหล้า

นิทานวงเหล้า

เพื่อนมากินเหล้าที่บ้านทุกวัน มาวันหนึ่งเมียอารมณ์เสียจึงพูดว่า
"วันนี้ขออนุญาตด่าผัวหน่อยค่ะ"

เพื่อนๆปรบมือเชียร์กันใหญ่
"เชิญเลยน้อง"

เมีย: "เพื่อนเ_ี้ยๆแบบนี้. มึงยังคบอีกเหรอ"

เอาใจเมีย

สมชาย อยากเอาใจเมียด้วยเค้กวันเกิด เมื่อถึงร้านก็สั่งร้านให้จัดและให้เขียนคำอวยพรลงบนหน้าเค้ก
สมชาย: ช่วยเขียนคำว่า “เธอแก่แล้วนะ” และคำว่า“แต่ก็วิเศษมาก”
พนักงานขาย: "พี่จะให้จัดตัวเขียนยังไงคะ"
สมชาย: เขียนคำว่า “เธอแก่แล้วนะ” ตรงข้างบน…“แต่ก็วิเศษมาก” ตรงข้างล่าง
เมื่อถึงงานวันเกิดของภรรยาท่ามกลางแขก ที่มางาน ภรรยา มีเอาการหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ และอับอาย เพราะที่เค้กมีคำอวยพรเขียนไว้ว่า

“เธอแก่แล้วนะ ตรงข้างบน”
“แต่ก็วิเศษมาก ตรงข้างล่าง"

ลุงผู้มีน้ำใจ

บนรถเมล์ (heart) คุณลุงเห็นสาวเจ้าขึ้นมาก็ทำท่าจะลุกขึ้น

ลุง: ....
ผญ: ไม่เป็นไรค่ะ หนูยืนได้

ลุง: (ทำท่าจะลุกขึ้นอีก) ...
ผญ: ไม่ต้องลุกค่ะลุง หนูยืนได้ ....(fourleafclover)

ลุง: กูเลยมาสองป้ายแล้ว กูจะลง!! (apple)(apple)

!!!!!!!........................

ศิลปะแห่งการให้อภัย( The Art of Forgiveness)

ศิลปะแห่งการให้อภัย( The Art of Forgiveness)

การให้อภัยเริ่มต้นเมื่อท่านให้อภัยผู้อื่น

การให้อภัยสร้างความมหัศจรรย์ของความเปลี่ยนแปลง. เมื่อ ลินคอล์น ถูกถามว่า. เหตุใดเขาถึงไม่ทำลายศัตรู. เขาตอบว่า. ."หากเราคิดว่าศัตรูก็เป็นเพื่อนเรา. เราจะทำลายเขาไหม? " เมื่อท่านให้อภัย. ท่่านได้เปลี่ยนแปลงผู้อื่น. อ. และ ท่านก็ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองด้วย. ท่านได้เปลี่ยนแปลงความบาดหมางสู่ความกลมเกลียว

การให้อภัยให้ผลสองทาง. ท่านต้องให้อภัยเพื่อท่านจะได้รับ. เอ็ดเวิร์ด. เฮอร์เบิร์ท. กล่าวว่า. "ผู้ที่ไม่สามารถให้อภัยผู้อื่นได้. ได้ทำลายสะพานที่ตัวเขาเองต้องเดินผ่าน. ทุกผู้คนล้วนแต่ต้องการ. การได้รับการอภัย "

การให้อภัยควรเป็นนิสัย. เมื่อผู้รู้ถูกถามว่า เราควรจะให้อภัยบ่อยแค่ไหน. ท่านตอบว่า "ไม่มีที่สุด " ผู้ที่ให้อภัยอย่างไม่มีที่สุด ย่อมปราศจากความเกลียดชัง

การให้อภัย ควรเริ่มเดี๋ยวนี้ การเลื่อนการให้อภัยจะทำให้แผลลึกขึ้น. การจมจ่อมอยู่กับความขมขื่น. ย่อมเลื่อนความรู้สึกให้ไกลออกไป. ชีวิตคนเราสั้น. เวลาโบยบิน. วันนี้เป็นวันแห่งการให้อภัย. -^^-

ข้อความดีๆ. จากแห่งความงดงามของชีวิต
วิลเฟรด ปีเตอร์สัน/เขียน. โสรีช์. โพธิ์แก้ว/แปล

สาวสวย

"สาวสวย"👄
หนุ่มปิ๊งสาวเลยจีบซะ😘
หนุ่ม: คุณสวยมากๆ ครับ ไปทำศัลยกรรมมาบ้างป่าวครับ?
สาว: แม่ให้มาค่ะ
หนุ่ม: โห..สวยธรรมชาติเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะเจอแล้วนะครับ
สาว: ค่ะ..แม่ให้มา 9 หมื่นค่ะ
หนุ่ม: 😳
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~[[
แดน: ผมขอบุญหน่อยได้ไหมครับ
สาว : บุญอะไรหรอคะ
แดน: บุญเคอ ครับ
สาว : อะไรคะ
แดน: บุณเคอ ~ เบอร์คุณ
สาว : ไม่มีบุญ มีแต่บัว คะ
แดน: บัวอะไรครับ
สาว : บัวเผลอ คะ-
แดน: อะไรครับ
สาว : บัวเผลอ ~ เบอร์ผัว
แดน: งามเงาะแล้วกรู

เรารักเขหรือไม่





เมื่อคุณมีตะกอนอารมณ์หงุดหงิดกับเรื่องต่างๆ
เมื่อใครทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรือโกรธ

ให้ถามตัวเองว่า"เรารักเขาหรือไม่"

หากรัก " จงให้อภัย "
หากไม่ " จงอย่าใส่ใจ "

แล้วโลกก็กลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง

.........................................

ลูกที่ดี

หลังอาหารเย็น ขณะที่คุณแม่ยังสาว
กำลังวุ่นกับการล้างจาน
ลูกสาวตัวน้อยวัย 6 ขวบ
คนขี้สงสัย เดินผ่านมาถามคุณแม่ว่า
"คุณแม่ขา ทำไมผมคุณแม่ถึงมีสีขาวปนกับผมสีดำล่ะคะ"
คุณแม่ยังสาวตกใจนิดหน่อย
แต่อาศัยไหวพริบจึงตอบไปว่า
"ทุกครั้งที่หนูทำสิ่งไม่ดีให้คุณแม่กลุ้มใจ
ผมสีดำสวยๆ ของคุณแม่
ก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาวหนึ่งเส้นจ้ะ"
คุณลูกสาวช่างคิดช่างถามนิ่งอยู่ซักพัก
ก่อนจะพูดว่า
"หนูสงสารคุณยายจัง
คุณยายผมขาวหมดหัวเพราะคุณแม่นี่เอง"

ค่าโทรซัพทย์

สามี : นี่ทุกคน บิลค่าโทรศัพท์ที่สูงขึ้นอย่างน่าใจหาย ที่สำคัญผมไม่เคยใช้โทรศัพท์ที่บ้านเลย ใช้แต่โทรศัพท์ของที่สำนักงานทั้งนั้น

ภรรยา : ฉันก็เหมือนคุณนั่นแหละค่ะ ใช้โทรศัพท์ของที่ทำงาน นานๆ ครั้งจึงจะได้ใช้โทรศัพท์บ้าน

ลูกสาว : ใช่ค่ะพ่อ หนูก็โทรศัพท์มือถือของที่บริษัท โทรศัพท์บ้านไม่เคยแตะเลยค่ะพ่อ

สาวใช้ : ค่าโทรศัพท์ไม่น่าแพง นู๋ก็ใช้โทรศัพท์ของที่ทำงานเหมือนกัน
^^^

relax

🌸relax 👴👵
....ตายายน่ารักคู่นึง จูงมือกัน เข้าไปสั่ง MAC burger
1 ชุด..จากนั้นประคองกัน
มานั่งโต๊ะแล้วแบ่ง burger
ออกเป็น 2 ซีกเท่าๆ กัน.....
ตาเริ่มกิน burger สลับกับ
การส่งยิ้มให้ยายไปพลาง
ยายยิ้มตอบ แต่ไม่ยอมกิน
burger ส่วนของตัวเอง..

โต๊ะข้างๆ เห็นความน่ารัก
ของตายาย จึงเสนอว่าผม
จะซื้อ burger ให้อีกชุด..
ยายตอบไม่เป็นไรพ่อหนุ่ม
เราสองคนมีอะไรก็
.."แบ่งปันกันเสมอ"..

ยายยังนั่งยิ้มรอตากิน
ชายหนุ่มอดใจไม่ได้..
ถามว่าทำไมยายไม่กิน
burger ส่วนของยายซักที
ยายตอบว่า..
.."ก็รอฟันปลอมจากตาอยู


ข้อคิดชีวิต

โง่ + ขยัน = เหนื่อย
โง่ + โลภ = เหยื่อ
โง่ + ขี้เกียจ = ยากจน
โง่ + บริโภคนิยม = หมดตัว
โง่ + ช้า = ล้าหลัง
โง่ + รีบร้อน = สะดุด
โง่ + อดทน = ถึงจุดหมาย แต่ช้าหน่อย
โง่ + ขยัน + อดทน = ลืมตาอ้าปากได้
โง่ + ซื่อสัตย์ = คนเมตตา
โง่ + กตัญญู = พระคุ้ม
โง่ + เรียนรู้ = ไม่โง่

ลูกเสือ กับ ลูกไก่

ลูกเสือซีต้าร์บอกมาว่า พ่อเราเป็นนักวิ่งละ
ลูกเสือโคร่งก็บอกมั้งว่า
พ่อเราอะเป็นนักล่า
ลูกจระเข้ก็รีบคุย ว่า พ่อเราอะเป็นนักว่ายน้ำ
ทีนี้เหลือลูกเจี๊ยบ อ้ำๆอึ้งๆอยู่โดยที่เพื่อนๆก็ลุ้นว่าพ่อของลูกเจี๊ยบเป็นอะไร
ลูกเจี๊ยบพูดว่า ..
พ่อเรา .. เป็นนัก…นัก…
เอ่อ … …
พ่อของเราเป็นนักเก็ต
———————————

แจ้งรถหาย

ข่าวแจ้งจาก สันติสุข 6 ครับ
...ถ้ารถหาย แจ้งสายด่วน1192
จะมี sms แจ้งไปยังจุดสกัดจับทั่วประเทศ ภายใน 2 นาที ฝากส่งต่อด้วยครับ เป็นศูนย์ป้องกันรถหาย ของ สตช.มี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง เป็นผู้ควบคุม..

สูตรยาต้านมะเร็ง

สูตรยาต้านมะเร็ง
กินมะนาว 2 ลูก ต่อ โซดา 1 ขวด ผสมกัน กินเช้าเย็น หรือกลางวันด้วยก็ดีคับ กรดของมะนาวจะฆ่าเซลมะเร็งโดยตรง องค์กรณ์อนามัยโลก ปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เพืี่อขายยา และคีโม ลองทำดู มันช่วยได้โดยไม่ต้องคีโม หรือกินยา อาหารที่กิน เน้นผักเป็นหลัก เพราะเนื้อสัตว์เป็นอาหารของมะเร็ง หลายคน ตายเพราะมะเร็งไป แต่เพิ่งรู้ว่ามะนาวช่วยได้
อ่านแล้วช่วยส่งต่อเป็นวิทยาทานคับ

จีบพยาบาล

พยาบาล: อายุเท่าไหร่คะ
คนไข้: เป็นเพียงตัวเลขครับ
พยาบาล: ส่วนสูง
คนไข้: ไม่มีความสำคัญในแนวนอนครับ
พยาบาล: มีโรคประจำตัวไหมคะ
คนไข้: ไม่ปวดหัวก็เป็นไข้ โรคประจำใจไม่ห่วงใยก็คิดถึง
พยาบาล: อืม
คนไข้: หมอเป็นไรครับทำไมเงียบๆ
หมอ: เป็นผัวพยาบาลครับ!!
See Translation

สุภาษิทไทย ปัจจุบัน

รักวัวให้ผูก รักลูกให้ไอแพด
ไก่งานเพราะขน คนงานเพราะแอพฯ
ชาติเสือต้องไวลาย ชาติชายได้กันเอง
คบคนพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตพาไปถ่ายรูป
คัพซี อยู่ได้ คัพเอ อยู่อยาก
น้ำขึ้นให้รีบตัก น้ำหมักต้องป้าเซ็ง
See Translation

-ความสำเร็จนั้นเรียบง่าย -

-ความสำเร็จนั้นเรียบง่าย -

คนมักจะคิดว่าความสำเร็จเป็นเรื่องซับซ้อน
แต่คนที่ทำสำเร็จแล้วจะบอกคุณได้เสมอว่า. ..ความสำเร็จนั้นเรียบง่าย
ความล้มเหลวซับซ้อนกว่ามาก

ไอเดียที่สุดยอดจะเรียบง่าย มีที่มาที่ไปกระจ่างชัด.
และน่่าแปลกคือมันไม่ได้ใช้เงินเยอะเท่าความล้มเหลว

สิ่งที่ดี. ที่เวิร์ก จัดการดูแลตัวมันเองได้ดีตั้งแต่เริ่ม
ไอเดียที่ดี. ธนาคารอยากสนับสนุน ซัพพลายเออร์อยากให้เครดิต
คนดีมีฝีมือ มีคนอยากมาช่วยทำ

ถ้าสิ่งดีๆ ไม่ปรากฏ บางทีโลกอาจกำลังส่งสัญญาณบางอย่าง ให้เรามองดูใหม่ให้ดีๆ
ใช้เงินให้น้อย. ใช้หัวให้เยอะ

เมื่อไรที่คิดว่าต้องใช้เงินเยอะเกินตัว. แสดงว่าใช้หัวน้อยเกินไป .-^^-

อ่านเจอในเข็มทิศ 5 เลย copy มาแบ่งปัน.ค่ะ

หมายเหตุ: ตอนเด็กๆ..ลอกการบ้านเพื่อนตลอดเลยค่ะ. copy from poy. My friend

ผัวเมียท่องแดนแสนสุข

ผัวชวนเมีย ท่องแดน ที่แสนสุข
หวังสนุก เมียตามใจ ไม่ขัดผัว
เมียบอกพี่ อย่าแรงนัก ชักหวั่นกลัว
พ่อทูนหัว ไม่เคยยั้ง สักครั้งเดียว
พอผัวเร่ง อย่างแรง เมียร้องลั่น
บอกใจสั่น พี่เร่งเเรง แกล้งให้เสียว
ผัวบอกน้อง ชอบสะดิ้ง เสียจิงเชียว
เร่งเต็มเหนี่ยว เมียยิ่งบ่น ไม่สนใจ
ผัวโยกซ้าย ย้ายขวา ท่าซิกแซ็ก
เมียหอบแหก กอดเอวผัว ตัวสั่นไหว
เมียร้องวี้ด เสียงดังสุด หยุดทันใด
กูไม่ซ้อน มอเตอร์ไซค์ อีกแล้วมึง