วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บทชัยปริตร ( แปล )





บทชัยปริตร ( มหากรุณิโก หรือ ที่เรียกย่อๆว่า มหากาฯ )


    มะหาการุณิโก นาโถ  หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง,

              พระพุทธเจ้าเป็นผู้เป็นที่พึ่งของสัตว์ ทรงประกอบแล้วด้วยพระมหากรุณา บำเพ็ญบารมีทั้งหลายทั้งปวงให้เต็ม เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย
              เป็นผู้ถึงความตรัสรู้ชอบอันสูงสุด,

    เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ  โหตุ เม* ชะยะมังคะลังฯ        

              ด้วยการกล่าวคำสัตย์จริงนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่ท่านเถิด ฯ

    ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน เอวัง อะหัง วิชะโย โหมิ (ถ้าสวดให้คนอื่น เปลี่ยนเป็น ตะวัง วิชะโย โหหิ) ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล
    อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ,            

              ขอท่านจงมีชัยชนะในมงคลพิธี เหมือนพระจอมมุนีทรงชนะมารที่โคนต้นโพธิ์ แล้วถึงความเป็นผู้เลิศในสรรพพุทธาภิเษก ทรงบันเทิงพระทัยอยู่บนบัลลังก์ที่มารไม่อาจจะผจญได้
              เป็นจอมมหาปฐพี ทรงเพิ่มพูนความดี แก่เหล่าประยูรญาติศากยวงศ์ฉะนั้น เทอญ,

    สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง,        

              เวลาที่บุคคลและสัตว์ประพฤติดีประพฤติชอบ ชื่อว่าฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี รุ่งแจ้งดี,

    สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะ (อ่านว่า พรัมมะ) จาริสุ,        
         
              และขณะดี ครู่ยามดี ชื่อว่าบูชาดีแล้วในผู้ประพฤติอย่างประเสริฐทั้งหลาย,

    ปะทักขิณัง กายะกัมมัง  วาจากัมมัง ปะทักขิณัง,        

              กายกรรมอันเป็นมงคลสูงสุด วจีกรรมอันเป็นมงคลสูงสุด, (๑)

    ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธีเต ปะทักขิณา,        

              มโนกรรมอันเป็นมงคลสูงสุด  ความปรารถนาอันตั้งไว้เพื่อสิ่งอันเป็นมงคลสูงสุด,

    ปะทักขิณานิ กัตวานะ  ละภันตัตเถ ปะทักขิเณฯ        

              บุคคลและสัตว์ทั้งหลาย ทำกรรมอันเป็นมงคลสูงสุด ย่อมได้ประโยชน์ทั้งหลายอันเป็นมงคลสูงสุดแล ฯ

    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง  รักขันตุ สัพพะเทวะตา,          

              ขอให้ทุกสิ่งอันเป็นมงคลทั้งปวง จงมีแก่ท่าน ขอเทวดาทั้งหลายทั้งปวง  จงปกปักรักษาท่าน,

    สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เม*ฯ      

              ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้า ขอความสวัสดีจงทีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเถิด ฯ

    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา,          

              ขอให้ทุกสิ่งอันเป็นมงคลทั้งปวง จงมีแก่ท่าน ขอเทวดาทั้งหลายทั้งปวง จงปกปักรักษาท่าน,

    สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เม*ฯ      
             
              ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ขอความสวัสดีจงทีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเถิด ฯ

    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา,          

              ขอให้ทุกสิ่งอันเป็นมงคลทั้งปวง จงมีแก่ท่าน ขอเทวดาทั้งหลายทั้งปวง จงปกปักรักษาท่าน,

    สัพพะสังฆานุภาเวนะ  สะทา โสตถี ภะวันตุ เม*ฯ      

              ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ตลอดกาล ทุกเมื่อเถิด ฯ



หมายเหตุ (๑)

          พวกพราหมณ์เขาถือว่า การประทักษิณคือการเดินเวียนขวารอบสิ่งศักดิ์สิทธิ์และบุลคลที่ตนเคารพนั้น เป็นการให้เกียรติและเป็นการเคารพสูงสุด เป็นมงคลสูงสุด เพราะฉะนั้น บาลีที่แสดงไว้ว่า กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ความปรารถนาและการที่กระทำกรรมทั้งหลาย เป็นประทักษิณอันเป็นส่วนเบื้องขวาหรือเวียนขวานั้น จึงหมายถึงการทำการพูดการคิดที่เป็นมงคล และผลที่ได้รับก็เป็นประทักษิณ อันเป็นส่วนเบื้องขวาหรือเวียนขวา ก็หมายถึงได้รับผลที่เป็นมงคลอันสูงสุดนั่นแล ฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น