วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ธรรมะ หลักการภาวนา

ธรรมะเป็นของร่มเย็น ถ้าเราภาวนา เราก็ร่มเย็นเป็นสุขขึ้นมา
หลักการภาวนานั้นมีอันเดียว แต่รูปแบบหรือวิธีการนี่ มีนับไม่ถ้วน
หลักของการภาวนาจริงๆ มีไม่มากนะ
ให้มีสติรู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง หลักมีเท่านี้เอง

จะรู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริงได้
ต้องรู้ด้วยจิตที่ตั้งมั่น และเป็นกลาง
จิตที่ตั้งมั่น และเป็นกลางคือ จิตที่มีสัมมาสมาธิ
ตั้งมั่น ไม่ไหลไป ไม่หลงไป
ไม่ลืมเนื้อลืมตัว จิตใจอยู่กับเนื้อกับตัว
มีสติระลึกรู้กาย มีสติระลึกรู้ใจไป ด้วยจิตที่ตั้งมั่น
ไม่ลืมตัว ไม่ไหลตามสิ่งที่จิตไปรู้ จิตตั้งมั่น
รู้แล้วรู้ด้วยความเป็นกลาง

ถ้าไม่เป็นกลาง ความไม่เป็นกลางก็จะเข้าไปแทรกแซง
เช่นเห็นกิเลสเกิดขึ้น อยากละ อยากละ เรียกว่าไม่เป็นกลาง
เห็นกุศลเกิดขึ้น อยากรักษา อยากรักษา เรียกว่าไม่เป็นกลาง
เมื่อไหร่มีความอยากเกิดขึ้น เมื่อนั้นจะมีความดิ้นรนทางใจเกิดขึ้น
แทนที่จะหยุดดิ้นรน กลับดิ้นรนต่อไปอีก


นั้นถ้าเราภาวนาถูกหลัก เรามีสติรู้กาย 
รู้ใจตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง 
มันสุขก็รู้ มันดีใจที่สุข มันไม่เป็นกลาง มันยินดี ก็รู้ทัน
มีความทุกข์เกิดขึ้น ก็มีสติไประลึกรู้ว่าความทุกข์เกิดขึ้น

เวลารู้ รู้ด้วยใจที่เป็นกลาง 
จะเห็นความทุกข์อยู่ต่างหาก จิตก็อยู่ต่างหากนะ
ความทุกข์กับจิต คนละอันกัน
ความสุขเกิดขึ้น สติระลึกรู้ จิตตั้งมั่นอยู่
ก็จะเห็นว่าความสุขก็อยู่ต่างหาก
ความโลภ ความโกรธ ความหลงเกิดขึ้น
ถ้าจิตตั้งมั่น ก็จะเห็นว่าความโลภ ความโกรธ ความหลง
มันอยู่ต่างหาก มันจะแยกออกไป
ร่างกายเคลื่อนไหว มีสติระลึกรู้
จิตตั้งมั่น ก็จะเห็นร่างกายอยู่ห่างๆ
ร่างกาย กับ จิต ไม่ใช่อันเดียวกัน

มันมีปัญญาขึ้นมา
การจะทำวิปัสสนา การเจริญปัญญา
ปัญญาตัวที่หนึ่งเลย ชื่อนามรูปปริจเฉทญาณ
การแยกรูป แยกนาม ออกจากกัน
แยกรูปกับนาม ออกจากกัน
จะเห็นเลยว่าร่างกายที่หายใจออก หายใจเข้า
ร่างกายที่ยืน เดิน นั่ง นอน นั้นเป็นสิ่งหนึ่ง
จิตเป็นคนไปรู้มันเข้า


ธรรมะจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น