วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ความรัก
เมื่อ ความรักที่เคยมีเริ่มไม่เท่ากันและไม่สามารถเรียกกลับมาให้เหมือนเดิมได้ การแยกทาง…ต่างคนต่างเริ่มต้นใหม่ตามวิถีของตัวเอง คงเป็นทางเลือกที่น่าจะดีกับทั้งสองฝ่าย แต่เรื่องแบบนี้คงจบลงได้ไม่สวย หากว่ายังมีใครคนหนึ่งรอให้อีกฝ่ายกลับมา เฝ้าคอยอย่างมีความหวังว่าอาจจะมีทางทำให้รักกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่การรอคอยครั้งนี้อาจจะสูญเปล่าถ้าเขาเองไม่เหลือใจให้คุณแล้ว
หาก ยังคิดยืนยันที่จะรอ ก็ควรจะประเมินท่าทีของเขาด้วยว่า คุณยังจะพอหวังให้รักครั้งนี้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่ หรือมันอาจเป็นเพียงการรอคอยลม ๆ แล้ง ๆ ที่จบลงด้วยการเจ็บกว่าเดิม ถ้าเขามีอาการหมดเยื่อใยเหล่านี้..
 1. เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่
หากเขาเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่โดยไม่คิดจะแจ้งให้คุณทราบ นั่นคงแสดงว่าเขาไม่อยากจะติดต่อกับคุณอีกต่อไปแล้ว ยิ่งสมัยนี้แม้โทรศัพท์จะหาย แต่ก็ยังสามารถขอใช้หมายเลขเดิมได้ การเปลี่ยนเบอร์ติดต่อโดยไม่คิดจะบอกกันแบบนี้ ก็ให้เริ่มทำใจเสียเลยจะดีกว่า
 2. ไม่ไปสถานที่ที่เคยไปเป็นประจำ
สถานที่แห่งเดิมที่คุณทั้งสองเคยไปด้วยกันบ่อย ๆ เมื่อยามรักกันดีอยู่ แต่พอมาบัดนี้คุณพบว่าเขาไม่กลับไปเหยียบที่แห่งนั้นอีกเลย หรือบางทีอาจจะเปลี่ยนกลุ่มเพื่อนที่เคยไปเที่ยวด้วยกันบ่อย ๆ อีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นเพื่อนกลุ่มที่รับรู้ความเป็นไประหว่างความสัมพันธ์ของคุณ ทั้งสองเป็นอย่างดี
 3. ส่งข้อความ อีเมล ฟอร์เวิร์ดเมล์ถึงคุณน้อยลง
ไม่ใช่เรื่องแปลกหากคนที่เลิกรากันไปแล้ว จะยังคอยถามไถ่ความเป็นไปผ่านทางการส่งข้อความ ไม่ว่าจะทางโทรศัพท์หรืออีเมล หรือจะเป็นการส่งฟอร์เวิร์ดเมลล์น่ารัก ๆ ตลก ๆ หากัน แม้มันจะไม่หวานและไม่บ่อยเช่นเดิมตาม หากคุณเป็นหนึ่งที่อยู่ในข่ายนี้ แต่กลับพบว่าเมื่อวันหนึ่งที่เขาหยุดส่งข้อความใด ๆ ก็ตามหาคุณ นั่นหมายความว่าเขาลืมคุณได้หมดใจ และพร้อมที่จะเปิดรับคนใหม่แล้วนั่นเอง
 4. จำกัดการเข้าถึงข้อมูลในเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์
หากคุณทั้งสองเป็นเพื่อนกันอยู่ในเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ หากวันหนึ่งคุณพบว่าไม่สามารถติดตามสถานะอัพเดท ดูข้อความที่เขาโพสต์ไว้ได้ หรือเขาเลิกติดตามคุณในทวิตเตอร์แล้ว นั่นตีความได้แบบไม่ผิดว่าเขาพยายามตัดคุณออกจากวงโคจรชีวิตของเขาแล้วล่ะ
 5. อยู่ไม่ติดบ้าน
ลองคิดถึงยามที่คุณกับเขาคบกันใหม่ ๆ คงจะออกไปเที่ยวหรือใช้เวลาด้วยกันที่ไหนอยู่บ่อย ๆ หากคุณพบว่าเขาเริ่มอยู่ไม่ติดบ้าน นั่นอาจหมายความว่าเขากำลังเริ่มคบหาและใช้เวลากับใครคนใหม่อยู่นั่นเอง
 6. หมกมุ่นกับงานอดิเรกมากขึ้นหรือมีงานอดิเรกใหม่ ๆ
การจะตัดใจจากใครสักคน คงต้องหาเรื่องอะไรให้ทำให้หัวไม่ว่าง และเมื่อเขาจะตัดคุณออกจากชีวิตเขาให้ได้ คุณจะพบว่าเขาเริ่มใช้เวลาไปกับงานอดิเรกมากขึ้น หรือไม่ก็กำลังค้นหางานอดิเรกชิ้นใหม่แทน สัญญาณเช่นนี้บ่งบอกว่า เขาพยายามเต็มที่ที่จะหลุดออกจากวงจรชีวิตแบบเดิม ๆ ที่เคยมีคุณอยู่ด้วยนั่นเอง
 7. ซื้อเสื้อผ้าใหม่
เสื้อผ้าตัวเดิม ๆ ที่คุณเคยเห็นเขาชอบใส่ เขาก็ไม่เคยหยิบมาใส่อีกเลย เหตุผลประการสำคัญที่อยู่เบื้องหลัง ก็เพื่อที่จะหนีจากข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่อาจมีความทรงจำเกี่ยวกับคุณเข้ามาเกี่ยวข้อง
 8. การคุยแบบหยอกล้อหายไป
สำหรับคู่รักบางคู่ แม้จะเลิกกันแล้ว แต่ก็ยังสามารถพูดคุยหยอกกันเล่นได้ บางทีอาจจะหยอกแรง ๆ (แต่ไม่โกรธกัน) เรื่องที่ต้องเลิกกันไปด้วยซ้ำ ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าเขาก็ยังให้ควาสำคัญกับคุณอยู่ แต่หากเขาเลิกการหยอกล้อพูดเล่นอย่างสนิทสนมนี้ไป ก็คงหมายความว่าตอนนี้เขาคงรู้สึกไม่สะดวกใจที่จะทำแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว อาจจะเพราะเขากำลังเริ่มต้นกับคนใหม่อยู่ก็ได้นะ
 9. เขาออกเดทกับใครคนใหม่
เมื่อคุณได้พบเห็นหรือได้ยินข่าวคราวว่าเขาไปออกเดทกับใครคนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการคบกันจริงจัง หรือคุณอาจจะรู้อยู่แก่ใจว่าเขายังไม่ลืมเรื่องของคุณได้ง่ายแน่ ๆ แต่แค่การพยายามที่จะออกไปกับใครใหม่ ๆ ก็บอกคุณได้แล้วล่ะว่า เขากำลังพยายามอย่างจริงจังที่จะลืมคุณให้ได้นั่นเอง
สุด ท้ายแล้ว หากว่าไม่สามารถเข้ากันได้จริง ๆ การถอยออกมาแล้วเดินต่อไปเพียงลำพัง ก็คงดีกว่าหยุดอยู่ตรงนั้นแล้วรอให้เขากลับมาเป็นเหมือนเดิม แม้จะเจ็บ แต่ถ้ายอมเจ็บครั้งเดียวแล้วตัดใจให้จบไป ก็คงดีกว่าการรอคอยอย่างไม่รู้จุดหมายและต้องได้เจอกับความเจ็บช้ำอยู่บ่อย ๆ จริงไหมคะ?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น