วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

6 วิธีดูแลใจ เมื่อต้องอยู่กับคนที่ไม่ชอบ

6 วิธีดูแลใจ เมื่อต้องอยู่กับคนที่ไม่ชอบ:























ในภาวะน้ำท่วม หลายครอบครัวอาจต้องอพยพหนีน้ำไปอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น อาจเป็นบ้านญาติพี่น้องที่ห่างไกลออกไป หรือศูนย์อพยพต่าง ๆ ซึ่งการไปอยู่ร่วมกับคนที่ไม่คุ้นเคยกันนักก็มีโอกาสที่จะเกิดเรื่องกระทบ กระทั่ง ผิดใจกันได้มาก วันนี้เราจึงมองหาคำแนะนำสำหรับช่วยทำใจในภาวะดังกล่าวมาฝากกันค่ะ ว่าเมื่อต้องอยู่กับคนที่เราไม่ชอบ หรือคนที่มีนิสัยแปลก ๆ (จากมุมมองของเรา) จะทำใจอย่างไรดี

1. บอกตัวเองว่า ไม่มีใครดีไปเสียทุกอย่าง

ประโยคนี้ถ้าคิดได้ก่อนก็จะไม่ค่อยเกิดเรื่องอะไร ที่มันเกิดเรื่องคงเพราะคนเราไม่ค่อยนึกถึงประโยคนี้กันมากกว่า ในความเป็นจริง ทุกคนล้วนมีข้อบกพร่อง มีนิสัย และตัวตนที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ กันทั้งสิ้น มันจึงไม่มีเหตุผลที่เราจะไปโกรธ – เกลียดในความแตกต่างนั้น เพราะเราเองก็อาจมีนิสัย หรือตัวตนที่ทำให้คนบางคนไม่ชอบเช่นกัน

2. ยอมรับ

การที่คุณไม่ชอบใครสักคน ก็ใช่ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นคนเลวเสมอไป และก็ไม่ใช่เหตุที่จะต้องไปเปลี่ยนแปลงใครเพียงเพราะว่าคุณไม่ชอบบางสิ่ง บางอย่างในตัวของเขา และหากพวกเขารู้ว่าคุณไม่ชอบเขา เขาอาจจะพยายามทำให้คุณดูแย่ในสายตาคนอื่น ๆ แทนก็เป็นได้ เช่น แหย่ให้คุณโกรธ แล้วระเบิดอารมณ์ออกมา เป็นต้น เท่านี้คุณก็ดูไม่ดีแล้วในฐานะที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ดังนั้นในจุดนี้ การยอมรับคนที่คุณไม่ชอบในแบบที่เขาเป็น อาจต้องฝืนใจบ้าง แต่ถ้าสามารถทำดีกับเขาได้ก็ลองทำดู นี่อาจเป็นอีกทางหนึ่งในการทำตัวให้คุ้นเคยกับคนเหล่านั้น

3. มองในแง่บวก

“จงมองแต่แง่ดีเถิด” อีกหนึ่งกลอนคำสอนจากท่านพุทธทาส หากคุณซื่อสัตย์กับตัวเอง เวลามองดูคนที่คุณเกลียด มันต้องมีบางอย่างดี ๆ ในตัวเขาเหล่านั้น เช่นเดียวกันกับคุณที่อาจมีข้อบกพร่อง แต่คุณก็มีข้อดีในตัวเช่นกัน (แต่ก็เป็นความจริงที่ว่า คนเรามักไม่มองข้อดีของคนที่เราตัดสินเขาในทางลบไปแล้วน่ะค่ะ) ที่สำคัญ หากคุณมองลึกลงไปในตัวคนที่คุณไม่ชอบ และมองเห็นข้อดีของเขามากพอ คุณอาจเปลี่ยนใจก็ได้

4. ทำดีกับคนที่เราไม่ชอบ

ทำดีกับคนที่เราไม่ชอบ แล้วก็ “เย้” ยินดีให้กับตัวเองในฐานะที่สามารถเอาชนะใจตัวเองได้ เพราะการทำดีกับคนที่เราไม่ชอบนั้นยากพอควร อีกทั้งเราไม่มีทางรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร วันหนึ่งข้างหน้าคุณอาจต้องขอความช่วยเหลือจากคนที่คุณไม่ชอบคนนี้ก็เป็นได้ หากคุณไปดูหมิ่น เหยียดหยามเขาเอาไว้มาก ๆ วันหนึ่งหากคุณต้องการความช่วยเหลือจากเขา เขาอาจเมินเฉยต่อคุณก็เป็นได้

5. คนทุกคนมีเรื่องราวของตัวเอง

ทุกคนล้วนมีเรื่องราวของตัวเอง และเรื่องราวเหล่านั้นจะเป็นตัวอธิบายเองว่าทำไมเขาหรือเธอจึงมีพฤติกรรมดัง ที่เป็นอยู่ หากคุณได้รับทราบเรื่องราวของคนที่คุณไม่ชอบ คุณอาจจะเข้าใจถึงที่มาของตัวตนที่เขาเป็นอยู่มากขึ้นก็ได้

6. พูดแต่เรื่องดี ๆ

ในสถานที่ที่คนมาอยู่ร่วมกันในภาวะน้ำท่วม บางคนอาจจะเครียด ทุกข์ใจอยู่ก็ได้ หากเรามัวแต่ตำหนิติเตียน ว่าร้ายกันและกัน ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศในสถานที่แห่งนั้นเลวร้ายลงได้อีก ดังนั้นหากตระหนักได้ว่าสิ่งที่เรากำลังจะพูดออกไปเป็นเรื่องไม่ดี ไม่สมควรพูด พูดออกไปแล้วอาจทำให้ใครบางคนเสียใจ ก็อย่าพูดออกไปเลยดีกว่าค่ะ อยู่ด้วยกัน รักษาน้ำใจกันไว้ดีกว่า

วิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้เป็นสิ่งเตือนใจได้เป็นอย่างดีว่าโลกนี้ เต็มไปด้วยคนที่แตกต่างกัน และบางคนก็อาจทำให้คุณไม่ชอบใจ หมั่นไส้ เกลียดขี้หน้า แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความเหมือนหรือความต่างกันนั้นต่างก็สอนให้เรารู้จักตัวตนของเรามากขึ้น และรู้จักที่จะบังคับ ควบคุมใจให้ผ่านพ้นสถานการณ์เลวร้ายไปให้ได้ด้วย ซึ่งการผ่านสถานการณ์เลวร้ายมาด้วยความรู้สึกดี ๆ ย่อมดีกว่าการจดจำมันในฐานะเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตใช่ไหมคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น