วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เคี้ยวหมากฝรั่ง ระวังรอยตีนกาบนใบหน้า

เคี้ยวหมากฝรั่ง ระวังรอยตีนกาบนใบหน้า:
เคี้ยวหมากฝรั่ง

ทำก๋ากั่น”เคี้ยว”หมากฝรั่ง ระวังเจอตีนกาเป็นของแถม (ไทยโพสต์)

ภาพของสาว ๆ ที่เคี้ยวหมากฝรั่งจั๊บ ๆ เสร็จแล้วก็เป่าลูกโป่งโชว์ทักษะความสามารถในการใช้ชิวหา ถ้าถามคนเฒ่าคนแก่หรือพ่อแม่พี่น้องแล้วเชื่อว่า ส่วนใหญ่จะส่ายหน้าเพราะเห็นเป็นวัฒนธรรมก๋ากั่นที่ไม่เหมาะสม แต่สำหรับเด็กวัยรุ่นแล้ว พวกเขาจะคิดทันทีว่า คนที่บ่นหรือห้ามเคี้ยวหมากฝรั่งในที่สาธารณะหรือที่ไหน ๆ ก็ตามแต่นั้น “น่าเบื่อ” มาก

วันนี้ คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองอาจจะมีเหตุผลใหม่นำไปอธิบายหรือหว่านล้อมให้เด็ก ๆ โดยเฉพาะลูกสาว ละ เลิกการเคี้ยวหมากฝรั่งที่ได้ผลกว่าเก่าแล้ว เพราะมีข่าวจากสหรัฐอเมริการะบุว่า การเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นประจำจะส่งผลกระทบทำให้เกิดรอยตีนกาบนใบหน้า และรอยย่นรอบปากที่ดูไม่น่ารักสุด ๆ

ดร.โจ เอล ชเกลซิงเกอร์ คุณหมอด้านศัลยกรรมในโอมาฮา เปิดเผยว่า เขาสังเกตลูกค้าหรือคนไข้ที่มา “ยกกระชับ” หน้า ส่วนใหญ่มีนิสัยชอบเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นชีวิตจิตใจ และสาวๆ เหล่านี้มีรอยย่นที่ชัดเจนบริเวณรอบริมฝีปาก ดังนั้นเขาแนะนำว่า การเคี้ยวหมากฝรั่งติดต่อกันตั้งแต่ 5-20 นาทีทุกวัน จะเป็นอันตรายต่อความสวยงามและความเต่งตึงบนใบหน้าอย่างยิ่ง

“ผม ไม่พูดถึงคนที่เคี้ยวหมากฝรั่งเป็นบางโอกาส หรือเคี้ยวเพื่อดับกลิ่นปาก แต่ผมพูดถึงคนที่ตื่นก็ต้องมีหมากฝรั่งในปาก และเคี้ยวตลอดเวลาไม่ว่าสถานที่ไหน เมื่อไหร่ก็ตาม ระวังนะครับว่าจะต้องเสียสตางค์เพื่อรักษาความเหี่ยวย่นหรือตีนกามากกว่าคน ปกติทั่วไป” ดร.โจเอลกล่าว

อย่าง ไรก็ตาม มีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพส่วนหนึ่ง ออกมาคัดค้านแนวคิดเกี่ยวกับโทษของหมากฝรั่งต่อความสวยความงามว่า หากเปรียบเทียบแล้วหมากฝรั่งจะมีประโยชน์สำหรับหลายคนทีเดียว เช่น ทำให้ลมหายใจสะอาด ทำให้สุขภาพปากดีเพราะช่วยขจัดเศษอาหารตามซอกฟัน  ช่วยคนที่กำลังลดความอ้วนให้กินอาหารน้อยลง ช่วยลดความตื่นเต้น และช่วยให้เกิดสมาธิสำหรับนักกีฬา เป็นต้น

สรุปว่า อะไรมากไปก็ไม่ดี เคี้ยวหมากฝรั่งบางโอกาสโอเค แต่ถ้าเคี้ยวแบบสาวก๋ากั่นอยากโชว์ความเก๋าล่ะก็ เตรียมแก่ก่อนวัยได้เลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น