
เมื่อเร็วๆนี้ ดร. รัชนี คงคาฉุยฉาย และ อาจารย์ ริญ เจริญศิริ นักวิจัยจากสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดลนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับปริมาณวิตามินซีในผักและผล ไม้ ดังนี้ค่ะ
จากการสุ่มตัวอย่างผัก 55 ชนิด และผลไม้ 25 ชนิด ที่เป็นที่นิยมบริโภค จากตลาด10 แห่งทั่วกรุงเทพมหานครพบว่า
จากการสุ่มตัวอย่างผัก 55 ชนิด และผลไม้ 25 ชนิด ที่เป็นที่นิยมบริโภค จากตลาด10 แห่งทั่วกรุงเทพมหานครพบว่า


ส่วนผักและผลไม้ชนิดอื่นจะมีวิตามินซีที่ต่ำกว่า 30 มิลลิกรัม/100 กรัม
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า ผักคะน้าและกะหล่ำปลีมีปริมาณวิตามินซีสูง แต่เมื่อผ่านการต้มจนสุก ปริมาณวิตามินจะลดลง ฉะนั้นฝรั่งและลิ้นจี่จึงเป็นแหล่งของวิตามินซีที่ดีกว่าผักสุก
เลือกกินผักสด และผลไม้อย่างฝรั่งและลิ้นจี่เพียงเท่านี้ก็ได้วิตามินซีจากธรรมชาติแบบเต็มๆแล้วล่ะค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น