วิธีทำให้จิตปลอดโปร่งสบายๆ
ถาม : เวลาเรามีปัญหา จะทำให้จิตปลอดโปร่งสบายๆ อย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ก็อย่ารับปัญหาเข้ามาทับตัวเองสิ ส่วนใหญ่ที่จิตไม่ปลอดโปร่งเพราะเรารับปัญหาเข้ามาทับตัวเองเสียเยอะ แบบเดียวกับที่บอกว่าสงสารเขา สงสารไปสงสารมา แบกปัญหาแทนเขา ก็ตายสิจ๊ะ
พระพุทธเจ้า เป็นสุดยอดของศาสดาจริงๆ พระองค์ท่านสอนให้เรามี เมตตา กรุณา มุทิตาแล้ว ยังสอนหลักธรรมป้องกันไม่ให้เราบ้า นั่นก็คือต้องมีอุเบกขา ไม่อย่างนั้นสงสารเขา เมตตาเขาจนเกินประมาณ ช่วยเขาได้แล้วก็มาเครียด มาเศร้า มาเสียใจเอง จะบ้าเสียเปล่าๆ
เพราะฉะนั้น..หลักธรรมท่านให้ไว้ ๔ ข้อ ต้องใช้ให้ครบ ถ้าใช้ไม่ครบแล้วเราจะแย่ ทำตัวเป็น ก๊วยเจ๋ง ไปได้ ครั้งแรกก๊วยเจ๋งฝึกกำลังภายในอยู่ท่าเดียว พอไปเจอ โอวหยางอู่จี้ ลูกศิษย์ เฒ่าพิษปัจฉิม ซึ่งมีฝีมือเหนือกว่า โอวหยางอู่จี้ดูไปดูมาเห็นก๊วยเจ๋งเป็นอยู่ท่าเดียว จึงจัดการเสียน่วมเลย เพราะฉะนั้น..ฝึกใช้ให้ครบ ๔ นะจ๊ะ ถ้าไม่ครบ ๔ นี่กิเลสอัดเราน่วมแน่
ถาม : บางทีเราก็ยังทำไม่ได้ ?
ตอบ : ทำไม่ได้ก็พยายามต่อไป จริงๆ แล้วทั้งหมดสำคัญตรง สมาธิ วันนี้บอกกับโยมที่ไปปฏิบัติที่ วัดท่าซุง มาว่า ไปมาหลายวัน อารมณ์ใจทรงตัว สิ่ง ที่สำคัญที่สุดก็คือระมัดระวังรักษาอารมณ์เอาไว้ อย่าให้รั่ว พูดแค่ที่จำเป็น ไม่อย่างนั้นกำลังที่เราสั่งสมเอาไว้จะรั่วออกทางวาจาหมด แล้วก็ไม่พอใช้ในการตัดกิเลส ไม่พอใช้ในการดึงตัวเองขึ้นมาให้สูงจากสภาพปกติตรงนั้น
ใน เมื่อจิตใจเราไม่ได้สูงกว่าเขา ถึงเวลาไปรับภาระมากก็ทับเราแบน ถ้าหากว่าสภาพจิตใจสูงกว่า คือความเข้มแข็งมีมากกว่า เท่ากับว่าเรายืดคอพ้นขึ้นมาแล้ว อย่างน้อยๆ หนักแค่ไหนก็ยังหายใจได้ ถ้าตอนนี้ดีที่สุดก็คือไม่รับเลย กองเอาไว้ตรงนั้นแหละ
ระวัง ให้มาก พวกเราส่วนใหญ่เสียตรงปาก พอถึงเวลาก็โม้กระจาย กำลังที่สั่งสมไว้ก็ไปกับปากหมด เพราะกำลังนี้จะรั่วออกทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ รั่วทุกรูเลย พระพุทธเจ้า ถึง สอนว่า ถ้าหากว่าจะจับเหี้ย เราต้องอุดรูไว้ ๕ รู เหลือแค่รูเดียว นั่งเฝ้าไว้เดี๋ยวเหี้ยก็ออกมาให้เราจับเอง ดังนั้น..ให้ปิดตา หู จมูก ลิ้น กาย ระวังใจอย่างเดียว ไม่อย่างนั้นเด็กชาวนาจับเหี้ยกินไม่ได้หรอก ถ้าเปิดเอาไว้หลายรูเหี้ยก็หนีออกได้ทุกรู
สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น