วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556

นิทานที่ผมแต่งเอง เรื่อง คนตาบอด

นิทานที่ผมแต่งเอง เรื่อง คนตาบอด

ผมจะเล่านิทานเรื่องหนึ่ง ซึ่งผมแต่งขึ้นมาเอง เรื่องคนตาบอด

เหตุเกิดในประเทศไทยของเรานี่เอง มีหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งคนส่วนใหญ่เกือบทั้งหมู่บ้านเป็นคนตาบอด คนในหมู่บ้านนี้มีนิสัยอย่างหนึ่งก็คือ พวกเขาชอบมาฟังเรื่องราวที่คนตาดีนำมาเล่าให้ฟังอยู่เสมอ
และคนตาดีในหมู่บ้านนี้ ก็มักจะนำเรื่องราวของความสวยงามของดอกไม้มาเล่าให้เหล่าคนตาบอดฟัง คนตาดีจะเล่าดอกไม้ชนิดโน้นบ้าง ชนิดนี้บ้าง หลากหลายชนิด เมื่อคนตาบอดได้ฟัง ก็อยากเห็นดอกไม้บ้าง

เหล่าคนตาบอดต่างก็ขอร้องให้ตนตาดี ช่วยพาพวกเขาไปดูดอกไม้ให้หน่อย

คนตาดีก็ปฏิเสธ และบอกว่า ผมพาพวกคุณไป พวกคุณก็มองไม่เห็นหรอก พวกคุณต้องไปพบแพทย์ ให้รักษาดวงตาให้เห็นได้ก่อน แล้วผมจะพาไป

คนตาบอดก็รู้สึกไม่ดีต่อตนตาดีคนนั้น แล้วก็เที่ยวไปในหมู่บ้านเพื่อให้คนตาดี พาพวกเขาไปดูดอกไม้ แต่คนตาดีทุกคนในหมู่บ้านต่างก็พูดเหมือนกันหมดว่า ให้ไปรักษาดวงตาให่เห็นได้ก่อน

เหล่าคนตาบอดยิ่งต่างมีความอยากที่จะเห็นดอกไม้ให้ได้ และต่างก็ไม่เชื่อคนตาดีในหมู่บ้านที่บอกให้พวกเขารักษาดวงตาให้เห็นได้ก่อน เหล่าคนตาบอดก็พากันออกเดินทางเป็นหมู่ใหญ่เพื่อไปยังหมู่บ้านอื่น โดยที่พวกเขาหวังว่า จะมีคนที่หมู่บ้านอื่นที่ใจดีเขาพาไปดูดอกไม้ที่พวกเขาอยากจะเห็นกันมาก

เมื่อเหล่าคนตาบอดเดินทางไปถึงหมู่บ้านหนึ่ง พวกเขาก็ได้พบกับคนตาบอดอีกคนหนึ่งที่คนตาบอดคนนี้เชื่อว่า ตัวเขาเองตาไม่บอด ตัวเขาคือคนตาดี

เหล่าคนตาบอดที่เดินทางมาจากหมู่บ้านที่ ก็ขอร้องให้คนตาบอดคนนี้ที่เชื่อว่าเขาคือคนตาดี พาเขาไปดูดอกไม้ให้หน่อย คนตาบอดที่เชื่อว่าตนเองคือคนตาดี ก็กล่าวกับหมู่คนตาบอดที่เดินทางมาพบว่า

"ดอกไม้นะหรือ มันไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย พวกคุณโดนหลอกแล้ว สิ่งทีพวกคุณเห็นกันอยู่ตอนนี้แหละ มันก็คือดอกไม้แหละ

เหล่าคนตาบอดก็พากันกล่าวขอบคุณคนตาบอดคนนี้ แล้วก็เดินทางกลับไปยังหมู่บ้านของตนเอง เพราะพวกเขาต่างได้เห็นดอกไม้ตามความต้องการแล้วนั่นเอง

นิทานเรื่องนี้จบลงเพียงเท่านี้

***********
เรื่องท้ายนิทาน

คนตาบอด ถ้าเปรียบก็เหมือนกับคนทั่ว ๆ ไปทีมีความอยากเห็นธรรม
คนตาดี เปรียบได้กับคนที่เห็นธรรมแล้ว คนตาดีจะรู้ดีว่า การเห็นธรรมนั้น ต้องมีดวงตาก่อน เมื่อมีดวงตาแล้ว ก็จะสามารถเห็นธรรมได้
ดอกไม้ เปรียบเหมือน ขันธ์ 5 / นิพพาน

การมีดวงตานั้น ก็หมายถึง การมี .จิตรู้.ที่แยกตัวออกมาจาก.สิ่งที่ถูกรู้.
ซึ่งการแยกตัวออกมาของ .จิตรู้.นี้จะต้องมาจากการความเพียรในสัมมาสติ ในสติปัฏฐาน 4 อย่างต่อเนื่อง

การที่ จิตรู้ เห็น ขันธ์ 5 ที่เป็นปรมัตถ์ธรรมได้ นี่คือ ชบวนการของวิปัสสนา
ซี่ง ถ้าไม่มี จิตรู้ ที่มีความสามารถจะไม่เห็น

เมื่อ จิตรู้ แยกตัวออกมาจากสิ่งที่ถูกรู้แล้ว จิตรู้ จะไปเห็นขันธ์ 5 ก่อน แล้ว จิตรู้ จะพัฒนากำลังความสามารถจนเกิด .ญาณ. แล้ว จึงจะเห็น นิพพาน

คนตาบอดส่วนมาก มักไม่เชื่อในเรื่องที่ว่า การเห็นธรรมนั้น จิตรู้ ต้องแยกตัวออกมาจากสิ่งที่ถูกรู้ก่อน ต่างก็เที่ยวแสวงหาสำนักปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเพื่อต้องการปฏิบัติเพื่อให้เห็นธรรม นี่คือทิฐิของคนตาบอด ที่พวกเขาเชื่ออย่างนั้น เมื่อเขาไปพบกับใครทีมีทิฐิเหมือนกับพวกเขา เขาก็จะยอมรับและปฏิบัติตามโดยที่พวกเขาต่างไม่รู้เลยว่า คนที่เขายอมรับก็คือคนตาบอดอีกคนหนึ่งที่พวกเขาต่างเชื่อว่าเขาคือคนตาดีนั่นเองและนำทางเขาไปได้

ภาพในสวนโมกข์ มหรสพทางวิญญาณภาพหนึ่ง ซึ่งเข้าได้ดีกับเรื่องนี้มาก ฝากไว้ให้ดูกันเพื่อพิจารณาเองครับ






Create Date : 10 มีนาคม 2553
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:12:17 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น